คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ ผู้ให้บริการเครือข่าย 2 ค่ายดัง อย่าง AISและ DTACอย่างแน่นอน เพราะถือว่า เป็น 2 ค่าย ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน โดยแต่ละค่ายนั้น จะมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ แพ็คเกจ หรือ โปรโมชั่น ที่ดึงดูดใจผู้บริโภค ไปจนถึงการจับมือกับเหล่าบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เพื่อทำสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับกับสัญญาณโทรศัพท์ของค่ายนั้นๆโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้ผู้มีบริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ทาง droidsans จึงนำสมาร์ทโฟนรุ่น AIS Lavaที่จับมือกับ บริษัท Lava จากประเทศอินเดีย และ DTAC Eagleที่จับมือกับ ZTE จากประเทศจีน มาท้าชนกัน พร้อมกับเปรียบเทียบแพ็คเกจว่าของใครน่าเล่นมากกว่ากันครับ
เนื่องจากว่าทาง DTAC Eagle นั้นมีแค่ 2 รุ่น คือ Eagle 4.5 และ Eagle 5.0 เพื่อความเป็นธรรม เราจึงเลือก AIS Lava รุ่นที่มีขนาดหน้าจอเท่ากัน โดยจะมี Lava Pro 5.0 / Lava 5.0 และ Lava Pro 4.5 / Lava T 4.5 ครับ
ก่อนอื่นเลย เราจะทำการเปรียบเทียบสเปคของแต่ละรุ่นกันก่อน แล้วจะตบท้ายด้วยเรื่องของแพ็คเกจของแต่ละค่ายครับ โดยจะเริ่มจากรุ่นใหญ่ 5 นิ้ว กันก่อนเลยครับ
ตารางเปรียบเทียบ AIS Lava Pro 5.0 / AIS Lava 5.0 และ DTAC Eagle 5.0
AIS Lava Pro 5.0 | AIS Lava 5.0 | DTAC Phone Eagle 5.0 | |
ราคา | 4,790 บาท | 3,290 บาท | 3,790 บาท |
OS | Android 4.4.2 (KitKat) | Android 4.4 (KitKat) | Android 4.4.2 (KitKat) |
CPU | MediaTek MT6582 Quad-core 1.3GHz | MediaTek MT6572 Quad-core 1.3GHz | MediaTek MT6582 Quad-core 1.3GHz |
GPU | Mali-400 MP | Mali-400 MP | Mali-400 MP |
หน่วยความจำ | RAM 1GB + ROM 8GB + microSD สูงสุด 32GB | RAM 1GB + ROM 8GB + microSD สูงสุด 32GB | RAM 1GB + ROM 8 GB + microSD สูงสุด 32GB |
หน้าจอ | IPS LCD HD 5.0 นิ้ว 1280 x 720 พิกเซล | IPS LCD FWVGA 5.0 นิ้ว 854 x 480 พิกเซล | IPS LCD HD 5.0 นิ้ว 1280 x 720 พิกเซล |
SIM | 2 ซิม (Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น | 2 ซิม (ขนาดปกติ / Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น | 2 ซิม (ขนาดปกติ / Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น |
เครือข่ายที่รองรับ | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (900/2100 MHz) | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (900/2100 MHz) | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (850/2100 MHz) |
Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v4.0 // microUSB 2.0 //รองรับ USB On-The-Go | Bluetooth v4.0 // microUSB 2.0 | Bluetooth v3.0 // microUSB 2.0 |
กล้องหลัง | 8 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 5 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash |
บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 720p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล | 2 ล้านพิกเซล | 5 ล้านพิกเซล |
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ |
Sensors | Accelerometer, Light, Proximity | Accelerometer, Light, Proximity | Accelerometer, Light, Proximity |
GPS | A-GPS | A-GPS | A-GPS |
แบตเตอรี | 2,500 mAh | 2,500 mAh | 2,000 mAh |
ขนาดและน้ำหนัก | 143.5 x 70.8 x 7.65 มม. 144 กรัม | 143.7 x 72 x 8.9 มม. 148 กรัม | 142.7 x 72.5 x 9.3 มม., 163 กรัม |
จุดเด่น จุดด้อย
อัพเดท: แก้ไขเรื่อง SIM ของ DTAC Eagle เป็น Dual SIM ขอบคุณ คุณ Vunity ครับ
จากการเปรียบเทียบของสเปค เราจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 รุ่นนั้นมี RAM 1GB และ ROM 8GB เหมือนกันทุกรุ่น และใช้ชิพ MediaTek ทีมีความเร็วใกล้เคียงกันครับ ส่วนความละเอียดหน้าจอนั้น Lava Pro 5.0 และ Eagle 5.0 จะเป็นแบบ HD 720p แต่ว่าในส่วนของ Lava 5.0 เป็นแค่ FWVGA เท่านั้น ครับ
สรุป:
AIS Lava Pro 5.0: ความโดดเด่นของ Lava Pro 5.0 นั้นอยู่ที่ดีไซน์ที่ บาง และ เบา ที่สุด จาก 3 รุ่น และถือเป็นรุ่นแรกๆ ที่เปิดตัวในช่วงราคาประหยัดแล้วมาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้าน พ่วงกับโปรโมชั่นของทาง ais อีก นับเป็นรุ่นฮอตที่พอเปิดวางขายนั้นมีขาดตลาดกันไปพักนึงเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ USB OTG ที่สามารถเสียบพวก flash drive หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงเข้ากับเครื่องเพื่อใช้งานได้ด้วย
AIS Lava 5.0: เจ้าตัว Lava 5.0 ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นแล้วจุดเด่นของมัน ก็คงเป็นเรื่องของ ราคา แต่ด้วยความเก่าและไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากเท่าไหร่นักนอกจากหน้าจอ 5 นิ้ว บางคนที่สนใจเรื่องกล้องหน้า/หลังมากกว่า ก็จะหันไปเลือก Lava Pro 4.5 แทน
DTAC Phone Eagle 5.0: จุดเด่นของ Eagle 5.0 นั้นอยู่ที่กล้องที่มีความละเอียด 13MP และนับว่าเป็นซีรี่ส์ใหม่ที่ทาง dtac เข็นเอามาสู้กับทาง ais ได้พอฟัดพอเหวี่ยงหน่อยเพราะสเปคใกล้เคียงกัน แต่ราคาถูกกว่า Lava Pro 5.0 ถึง 1,000 บาท
หลังจากที่เราได้ดูรุ่นใหญ่กันไปแล้ว เรามาลองดูรุ่นรอง ที่หน้าจอขนาด 4.5นิ้ว กันบ้างครับ
ตารางเปรียบเทียบ AIS Lava Pro 4.5 / AIS Lava T 4.5และ DTAC Eagle 4.5
AIS Lava Pro 4.5 | AIS Lava T 4.5 | DTAC Phone Eagle 4.5 | |
ราคา | 3,590 บาท | 2,690 บาท | 2,690 บาท |
OS | Android 4.4 (KitKat) | Android 4.4 (KitKat) | Android 4.4 (KitKat) |
CPU | MediaTek MT6582 Quad-core 1.3GHz | MediaTek MT6572 Quad-core 1.3GHz | Quad-core 1.2GHz |
GPU | Mali-400 MP | Mali-400 MP | Mali-400 MP |
หน่วยความจำ | RAM 1GB + ROM 8 GB + microSD สูงสุด 32GB | RAM 1GB + ROM 8 GB + microSD สูงสุด 32GB | RAM 1GB + ROM 8 GB + microSD สูงสุด 32GB |
หน้าจอ | IPS LCD 4.5 นิ้ว 960 x 540 พิกเซล | IPS LCD 4.5 นิ้ว 960 x 540 พิกเซล | TFT FWVGA 4.5 นิ้ว 854 x 480 พิกเซล |
SIM | 2 ซิม (ขนาดปกติ / Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น | 2 ซิม (ขนาดปกติ / Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น | 2 ซิม (ขนาดปกติ / Micro-SIM) เลือก standby ได้ซิมเดียวเท่านั้น |
เครือข่ายที่รองรับ | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (900/2100 MHz) | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (900/2100 MHz) | 2G (850/900/1800/1900 MHz) / 3G (850/2100 MHz) |
Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 b/g, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot | Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi hotspot |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v2.0 // microUSB 2.0 | Bluetooth v2.0 // microUSB 2.0 | Bluetooth v2.1 // microUSB 2.0 |
กล้องหลัง | 8 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 5 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash | 8 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash |
บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | บันทึกวิดีโอ 720p@30fps | บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps | |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล | VGA | 2 ล้านพิกเซล |
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ |
Sensors | Accelerometer, Light, Proximity | Accelerometer, Light, Proximity | Accelerometer, Light, Proximity |
GPS | A-GPS | A-GPS | A-GPS |
แบตเตอรี | 2,000 mAh | 2,000 mAh | 1,850 mAh |
ขนาดและน้ำหนัก | 135 x 66 x 8.5 มม., 129กรัม | 135 x 67 x 9.2 มม., 133 กรัม | 133.90 x 67.50 x 9.4 มม., 145 กรัม |
จุดเด่น จุดด้อย
อัพเดท: แก้ไขเรื่อง SIM ของ DTAC Eagle เป็น Dual SIM ขอบคุณ คุณ Vunity ครับ
จากตารางด้านบน เราจะเห็นว่าทั้ง 3 รุ่นก็ยังใช้ RAM 1GB และ ROM 8GB อยู่เหมือนเดิม แต่ว่า Eagle 4.5 นั้นพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Lava T 4.5 ได้ชนิดสูสีโดยที่เปิดราคามาเท่ากัน ส่วนของ Lava Pro 4.5 นั้นค่อนข้างจะโดดเด่นกว่า แต่ราคาก็สูงกว่าด้วย
สรุป:
AIS Lava Pro 4.5: สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดของรุ่น Lava Pro 4.5 ก็คือกล้องหน้าขนาด 5MP ซึ่งเยอะกว่าเพื่อน อีกทั้งยังมีดีไซน์บาง และ มีน้ำหนักที่เบากว่า 2 รุ่นที่เหลือ แต่ราคาก็สูงกว่าเพื่อนเป็นพัน
AIS Lava T 4.5: จุดเด่นของ Lava T 4.5 ถ้าเทียบกับของ Eagle 4.5 ก็คงเป็นเรื่องของหน้าจอที่มีความละเอียดสูงกว่าเล็กน้อย แต่ด้วยความที่มันออกมานานแล้วก็ย่อมจะแพ้ในเรื่องความสดใหม่ และเรื่องของสเปคกล้องที่คนจับต้องได้ให้กับ Eagle 4.5 ที่ราคาพอๆ กัน
DTAC Phone Eagle 4.5: รุ่นนี้ถือว่า dtac เดินเกมทุบตรงไปที่ราคา โดยเน้นทำราคาถูกแค่ 2,690 บาท ได้หน้าจอ 4.5 นิ้วกล้องหลัง 8MP กล้องหน้า 2MP เรียกได้ว่าเป็นรุ่นนึงที่ถูกที่สุดในตลาดที่คุณสามารถจ่ายเงินแค่ 2 พันกว่าบาทแล้วได้สเปคค่อนข้างครบแบบนี้
ดูสเปคกันจนตาลายแล้ว เรามาดูในส่วนของแพ็คเกจ ที่เราสามารถซึ้อได้พร้อมเครื่องกันดีกว่าครับ ซึ่งจะมีทั้ง โบนัสพิเศษ จากการเติมเงิน และ แพ็คเกจแบบรายเดือน ครับ จะได้เปรียบเทียบกันไปเลยว่าใช้ของค่ายไหนแล้วคุ้มค่ามากกว่ากัน
ตารางเปรียบเทียบแพ็คเกจรายเดือนที่มาพร้อมกับเครื่อง AIS Lava และ DTAC Eagle
ราคา (บาท) | โทร (นาที) | Internet | Wifi | อื่นๆ | |
AIS | 249 | 100 | 1GB | ไม่จำกัด | โบนัสโทรฟรี 50 นาที (3เดือนแรก) // Line/Facebook/KakaoTalk/Whatsapp ฟรี ไม่จำกัด นาน 6 เดือน |
349 | 150* | 750MB** | ไม่จำกัด | โบนัสโทรฟรี 50 นาที (3เดือนแรก) | |
DTAC (Love & Roll) | 299 | 100 | 1.5GB | - | - |
399 | 150 | 3GB | ไม่จำกัด | - | |
599 | 300 | 5GB | ไม่จำกัด | - |
*โทรฟรีในเครือข่าย ตั้งแต่ 05.00-17.00 น. // **ใช้เน็ตความเร็วปกติได้ถึง 750MB หลังจากนั้นจะถูกรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 64kbps แต่ยังสามารถเล่นเน็ตได้อยู่
การจะเลือกแพ็คเกจนั้นจริงๆแล้วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละคนก็มีตัวเลือกที่ไม่เหมือนกันครับ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่ให้บริการอีกด้วย เพราะว่าบางคนอาจจะอยู่ในพื้นที่ที่ AIS มีสัญญาณ แต่ DTAC ไม่มีสัญญาณ หรืออาจจะกลับกันก็เป็นได้ครับ
สรุป:
AIS: แพ็คเกจ 349 นั้นคงเหมาะสำหรับคนเน้นโทรในเครือข่าย AIS เหมือนกัน ส่วนเน็ตนั้นแม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึงแค่เพียง 750MB แต่ว่าหลังจากนั้นก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ ไม่ต้องเสียค่าเน็ตเพิ่ม (แต่เต่าสุดๆ ด้วย FUP 64Kbps) ส่วนแพ็คที่เน้นเน็ตมากกว่าโทร โปร 249 ยังดูน่าสนใจ เพราะถึงแม้เน็ตจะหมดก็ยังพอหาโปร on top ซื้อเน็ตเพิ่มได้ในราคาไม่แพงมาก
DTAC: แพ็คเกจของ DTAC จะเน้นในเรื่องของเน็ตมากกว่าโทร โดยเจ้าแพ็คเกจ Love & Rollนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ว่า ถ้าเราใช้เน็ตไม่หมดในเดือนนี้ ก็สามารถไปทบใช้ในเดือนถัดไปได้ แถมยังให้ปริมาณเน็ตมากกว่าของ ais ถึง 50% ซึ่งการใช้งานในสมัยนี้ส่วนใหญ่การผ่านทางเน็ตซะมาก ส่วนแพ็คเกจที่คุ้มหน่อยก็น่าจะเป็น แพ็คเกจราคา 399 บาทครับ เพราะว่าสามารถใช้ dtac Wifi ได้ด้วย และ เน็ต 3GB ก็ถือว่าเยอะพอสมควร ถ้าเล่นแค่ social ยังไงก็ไม่หมด (เว้นแต่จะดูคลิปเยอะอะนะ)
สุดท้ายก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถตัดสินใจ เลือกซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจจากค่าย AIS และ DTAC นะครับ