วางขายกันไปได้สักพักแล้วกับ vivo X5Max แอนดรอยด์ที่เรียกได้ว่าบางเฉียบที่สุดตัวนึง หลังจากที่ได้ลองจับลองใช้มาสักพัก ก็พบว่ามันมีอะไรน่าสนใจกว่าความบางอยู่เยอะเหมือนกัน โดยตัวสร้างความแตกต่างหลักๆก็คือเจ้า Fun OS ที่ไปปรับแต่งตัวระบบของแอนดรอยด์ไปหลายๆอย่าง จนคนที่เคยใช้แอนดรอยด์แบรนด์อื่นมาก่อนอาจจะมีมึนได้เมื่อย้ายค่ายมา vivo วันนี้เดี๋ยวเรามาแกะกล่องแล้วไปดูความสามารถต่างๆเหล่านี้กันสักหน่อยดีกว่าครับ
เริ่มจากแกะกล่องดูกันก่อนละกัน
เปิดกล่องของ vivo X5Max ออกมาแล้วจะเจอตัวเครื่องนอนสวยๆรอการสัมผัสของเราอยู่
บรรจุภัณฑ์ของค่ายนี้จะต่างจากชาวบ้านนิดหน่อยตรงที่หุ้มเครื่องด้วยซองพลาสติกมาอีกรอบ
(ที่เห็นเป็นฟองๆบนหน้าจอนั่นคือผมแปะแล้วติดกลับเข้าไปใหม่ไม่สนิทนะ 555)
vivo X5Max จะมีติดฟิล์มกันรอยมาให้เสร็จสรรพเลยจากโรงงานนะ (สังเกตบริเวณขอบหูฟัง) ไม่ต้องรีบซื้อมาติดทับลงไปนะ
เปิดชั้นล่างมาก็จะเห็นอุปกรณ์เสริมนอนรออยู่สามอย่าง (ชาร์จเจอร์, หูฟัง, และเคส)
และนี่คืออุปกรณ์ทั้งหมดที่มีมาให้ในกล่อง (มีเข็มจิ้มซิมและคู่มือมาให้ด้วย)
ชอบที่มีเคสมาให้ด้วยเลย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม (ก็ใช่ว่าหาง่ายอีกต่างหาก)
แต่ขอติที่เคสไม่ได้ช่วยปกป้องเลนส์อ่ะ นูนปูดซะขนาดนี้ ไม่ระวังก็เป็นรอยแหงมๆ
เน้นปกป้องบริเวณขอบมากกว่า จะไม่ได้คลุมทั้งเครื่อง ซึ่งก็กันกระแทกเวลาตกได้ระดับนึง
อย่าเผลอเอาตรงกลางเครื่องไปฟาดกับอะไรเข้าเป็นพอ - 3-
เมื่อจิ้มเอาซิมออกมาจะเห็นว่ามีสองช่องให้เสียบนะ
ลักษณะจะเป็นแบบตามสมัยนิยมคือใส่ได้สองซิม micro SIM และ nano SIM
แต่ถ้าจะใส่ nano SIM ก็ต้องแลกด้วยช่องใส่ microSD แบบเดียวกับของ Galaxy A5 & A7นั่นเอง
มาดูสเปคเปรียบเทียบเจ้า vivo X5Max กับมือถือรุ่นราคาใกล้ๆกันสักหน่อย
Galaxy A7 | vivo X5Max | Oppo R5 | |
ราคา | 14,900 บาท | 15,990 | 15,990 |
OS | Android 4.4 (KitKat) | Funtouch OS 2.0 (Android 4.4) | Color OS 2.0 (Android 4.4) |
CPU | Qualcomm Snapdragon 615 Octa-core (1.5 GHz x4, 1.0 GHz x4) | ||
GPU | Adreno 405 | ||
หน่วยความจำ | RAM 2GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB + รองรับ OTG | RAM 2GB + ROM 16 GB + microSD สูงสุด 64GB + รองรับ OTG | RAM 2GB + ROM 16 GB |
หน้าจอ | Super AMOLED 5.5" Full HD | Super AMOLED 5.5" Full HD | Super AMOLED 5.2" Full HD |
SIM | 2 ซิม (microSIM) dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน (แชร์ช่องกับ microSD) | 2 ซิม (microSIM) dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน (แชร์ช่องกับ microSD) | microSIM ซิมเดียว |
เครือข่าย | 2G/3G/4G ทุกเครือข่าย | ||
WiFi | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi Direct , Wi-Fi hotspot | ||
การเชื่อมต่อ | Bluetooth v4.0, A2DP, BLE , ANT+ // microUSB v2.0 // NFC | ||
กล้องหลัง | 13 MP + Autofocus + LED Flash + 1080p@30fps + กล้องหน้า 5 ล้าน | ||
เสียง | ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ | มีลำโพง แต่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง | |
Sensors | Accelerometer, Proximity, Compass, Light | ||
GPS | A-GPS + GLONASS | ||
แบตเตอรี | 2,600 mAh | 2,300 mAh | 2,000 mAh |
ขนาดและน้ำหนัก | 151 x 76.2 x 6.3 มม. 141 กรัม | 153.90 x 78 x 5.08 มม. 156 กรัม | บาง 4.85 มม. 155 กรัม |
จะเห็นได้ว่าสเปคมันเค่อนข้างใกล้เคียงกับแบรนด์ร่วมชาติ และแบรนด์ยอดนิยมแดนกิมจิเลยทีเดียว (ไหนใครบอกว่าราคา Samsung แพงเวอร์นะ)
เสียดาย ตอนที่ลองจับเจ้า vivo X5Max นี้ด้นไม่มีเครื่อง Galaxy A7 กับ Oppo R5 อยู่กับมือ เลยขอเอามันไปเปรียบเทียบความบางกับ iPhone 6 แทนละกัน
อย่างที่เห็นคือตรงตูด vivo X5Max จะบางกว่า iPhone 6 แต่เมื่อนำเอาตรงส่วนบนที่มีกล้องมาเทียบกันก็กลายเป็นหนาเท่าๆกันนั่นแหละ
ส่วนตัวแล้วเรื่องความหนา เครื่องไหนที่น้อยกว่า 7 มม.ก็ถือว่าบางพอแล้วนะ เพราะน้อยกว่านี้กลับดูบอบบางเกินกว่าจะใช้ ส่วนว่า vivo X5Max นี่มันงอได้รึเปล่านั้น จากที่ลองๆดูคือไม่กล้าลงแรงมากกว่านี้ เพราะถ้าเจ๊งขึ้นมาคง#ร้องไห้หนักมาก
ฟีเจอร์น่าสนใจของ vivo X5Max
หน้าตาของ Lockscreen จะไม่ได้ต่างอะไรจากชาวบ้านมากนัก เลื่อนเพื่อปลดล็อคธรรมดา
ที่ชอบคือใส่เรื่องของการเคาะหน้าจอเพื่อเปิดเหมือนหลายๆแบรนด์ และเขียนลงหน้าจอเพื่อลัดเข้าแอพก็ได้
การใช้งานหน้า Homescreen จะเหมือนของ iPhone คือไม่มี App Drawer ทุกแอพจะกองที่หน้า Home ทั้งหมด
สามารถลากจากขอบจอล่างขึ้นมาหรือกด Home ค้างไว้เพื่อเรียก Quick Settings และสลับแอพได้
ถ้ากดปุ่มเมนูก็จะเรียกการปรับแต่งให้ใส่ Widget ทั่วไปได้
โหมดกล้องก็มีมาเยอะดี พวกใช้บ่อยๆอย่างพานอราม่า HDR ก็มีครบ แต่ที่ชอบคือแยกจุดวัดแสงและโฟกัสได้
หน่วยความจำจะแบ่งสำหรับลงแอพและเก็บข้อมูลทั่วไปอยู่ซึ่งหลายๆคนจะไม่ชอบเท่าไหร่
แต่อีกนัยนึงก็มีข้อดีที่มันจำลองตัวเองให้กลายเป็น USB Drive ได้ทันที
ส่วนการตั้งค่าจะค่อนข้างมึนสำหรับคนที่ใช้แอนดรอยด์รุ่นอื่นมาก่อน เพราะมีการเปลี่ยนและย้ายบางส่วนไปที่แอพ iManager
รวมเครื่องมือจำเป็นๆต่างๆมาอยู่ในแอพเดียว ทั้งเคลียร์ข้อมูลขยะในเครื่อง ตรวจสอบการใช้งาน 3G เลือกให้สิทธิแอพต่างๆ ดูรายละเอียดการใช้งานแบตเตอรี่ แถมบอกได้ด้วยว่าถ้าทำอะไรจะใช้งานได้อีกนานแค่ไหน เจ๋งดี
ความรู้สึกหลังได้ลองจับมาราวๆอาทิตย์นึง
สิ่งที่ชอบใน vivo X5Max
- เครื่องบางดี ใส่เคสแล้วก็ถือถนัดมืด
- เสียงจากหูฟังที่แถมมาฟังแล้วแบบว่า "มันดี"
- แบตอึดกว่าที่คิด ชาร์จไฟไวดี
- เปิดหน้าจอด้วยการเคาะได้ + วาดเป็นรูปต่างๆเพื่อเข้าแอพทันทีได้
- มีฟีเจอร์ video capture screen มาให้ด้วย
- จำลองตัวเองเป็น USB Drive ได้ทันที
- มีตัวควบคุมสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของแอพ
- กล้องแยกจุดโฟกัส กับวัดแสงได้
ข้อสังเกตหรือควรปรับปรุง
- หน่วยความจำสำหรับลงแอพน้อยเกินไป ไม่นานก็เต็ม
- กด Home ค้างเพื่อเข้า Google Now ไม่ได้ (ไม่โอเคสำหรับคนชอบ search)
- น่าจะให้ตั้งค่าปุ่มได้เอง (หรือมันทำได้แต่หาไม่เจอก็ไม่รู้)
- Funtouch OS ใช้แล้วแอบงงในช่วงแรก
- กล้องหน่วงเบาๆ ตั้งค่าได้น้อยไปนิด และเจออาการโฟกัสไม่ตรง
สรุปโดยรวมคือโอเคนะ ถ้าใครคิดจะซื้อ ให้ไปลองจับตัวเครื่องที่หน้าร้าน ชอบก็ถือว่าซื้อได้เลยน่าจะแฮปปี้
ส่วนรีวิวการใช้งานละเอียดๆ ไว้มีโอกาสจะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ มีคำถามอะไรมาเม้นได้ เดี๋ยวจะเข้ามาตอบให้ครับ