Image may be NSFW.
Clik here to view.
ในช่วงนี้ Uber Taxi เหมือนจะเป็นประเด็นที่ร้อนแรงซะเหลือเกิน ร้อนจนต้มมาม่าสุกไปหลายซองแล้ว เมื่อหลายวันที่ผ่านมาก็เพิ่งจะมีข่าว Uber Black โดนจับฐานเอารถป้ายเองออกให้บริการ ล่าสุด กรมขนส่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี๋ยวกับประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งเรียก Uber Taxi, Grab Taxi, และ Easy Taxi เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และยังมีการเปิดเผยว่า ทางกรมฯกำลังพัฒนา Application ที่คล้ายกับ Uber Taxiที่ทางกรมขนส่งร่วมมือกับสมาคมแท็กซี่อีกด้วย
ปัจจุบัน Application สำหรับช่วยเรียกรถ Taxi จากมือถือเริ่มเป็นที่นิยมและมีการทำออกมาหลายเจ้า บางแอปแค่ใช้เรียกรถแท็กซี่ทั่วไปเช่น Grab Taxi, Easy Taxiบางแอปก็มีระบบแท็กซี่เป็นของตัวเอง เช่น Uber Taxi ตรงจุดนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหา "แท็กซี้ในระบบ vs แท็กซี่นอกระบบ"จึงเป็นประเด็นที่กรมขนส่งต้องเข้ามาจัดการดูแล
Image may be NSFW.
Clik here to view.
เรามาดูข้อดีข้อเสียของแท็กซี่แต่ละระบบกันดีกว่า เริ่มกันที่ "แท็กซี่นอกระบบ"อย่าง Uber Taxiกันก่อนเลย
ข้อดี
+ รถใหม่ สะอาด และต้องสะอาดอยู่เสมอ ไม่งั้นอาจโดนผู้โดยสาร vote down ได้
+ คนขับมีมารยาท เพราะมีระบบมีการ vote ให้คะแนนคนขับซึ่งกระทบต่อประวัติของคนขับจริง
+ มี application สะดวกต่อการใช้งาน
+ ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร เพราะใช้การเรียกผ่านแอป
ข้อเสีย
- ใช้รถป้ายดำมาบริการ << อาจมีหรือไม่มีประกันก็ได้ เวลาเกิดอุบัติเหตุ คนขับต้องรับผิดชอบเอง และผิดกฏหมาย
- ใช้รถป้ายเขียวบริการ << ถึงแม้จะมีประกัน แต่ป้ายเขียวเอาไว้ให้บริการแบบเฉพาะกิจ เอามาให้บริการผิดประเภท
ประกันมีสิทธิไม่จ่ายได้
- ประวัติคนขับเก็บไว้ที่บริษัท (ทางกรมขนส่งไม่มีข้อมูลคนขับตรงนี้ ก็เลยบอกว่า Uber ไม่ปลอดภัย)
- ไม่สามารถตรวจประวัติอาชญากรคนขับได้ เพราะ Uber ไม่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของตำรวจได้
Image may be NSFW.
Clik here to view.
Uber Taxi ป้ายเขียว
ถึงแม้ Uber Taxi นั้นจะกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มนักธุรกิจระดับสูง(Uber Black) และกลุ่มคนรุ่นใหม่ทีต้องการความสะดวก(Uber X) แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยซะทีเดียว ปัญหาใหญ่ที่สุดของ Uber ก็คงจะอยู๋ที่ Uber X ที่ใช้รถทะเบียนดำมาให้บริการ ซึ่งถือว่าผิดกฏหมายตรงๆเลย นอกจากจะไม่มีประกันแล้ว คนขับก็อาจเป็นใครก็ได้ ไม่รู้ว่าสอบประวัติมาดีแค่ไหน ทางกรมขนส่งได้ให้ความเห็นไว้ว่า
"ถ้าพบเห็นว่ามีการใช้รถผิดประเภท เราดำเนินการปราบปรามจับกุมอยู่แล้วครับ ก่อนหน้านี้ รถตู้ที่ใช้รถผิดประเภท เราก็ปราบปราม จับกุม เปรียบเทียบปรับแบบนี้เหมือนกัน"
เรามาดูข้อดีข้อเสียของ "แท็กซี่ในระบบ"ซึ่งก็คือแท็กซี่เหลืองเขียว ชมพู ฟ้า หลากสีทั่วไปนี้แหละ
ข้อดี
+ มีการสอบใบอนุญาติ
+ มีการตรวจประวัติอาชญากร เพราะกรมขนส่งสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลของตำรวจได้นั้นเอง
+ กรมขนส่งมีการเก็บประวัติคนขับ หากมีการร้องเรียนก็จะมีบทลงโทษ สูงส่งคือเพิกถอนใบอนุญาติ
+ ใช้รถป้ายเหลือง มีประกัน+ถูกกฏหมาย
ข้อเสีย
- รถไม่ได้มาตราฐาน บางคันไม่สะอาด มีกลิ่น แอร์ไม่เย็น ยิ่งรถส่วนตัวนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
- ปฏิเสธผู้โดยสาร เลือกเอาเฉพาะผู้โดยสารที่ได้ค่าตอบแทนสูงกว่า
- ชอบชวนคุยเรื่องการเมือง (?)
- ไม่มีการ Vote คนขับ ทำให้ความคิดเห็นของผู้ใช้บริการไม่ได้สะท้อนคุณภาพของคนขับเลย
- ระบบการร้องเรียนทำได้ยาก ถึงจะมีโทษชัดเจน แต่ไม่มีใครร้องเรียน เพราะเสียเวลา
ทางฝั่งแท็กซี่หลากสีเองถึงแม้จะมีข้อดีตรงที่ทำถูกกฏหมายทั้งหมด แต่กลับมามีปัญหาที่การให้บริการของคนขับเอง ซึ่งไม่ได้มาตราฐาน การผ่านการสอบใบอนุญาติมาบางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไร อีกทั้งยังขาดระบบการ vote ให้คะแนนคนขับซึ่งจะทำให้ไม่มีรีวิวตัวคนขับเลย คุณภาพก็จะหย่อนยานไปเรื่อยๆ
Image may be NSFW.
Clik here to view.
เรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร กรมขนส่งกล่าวว่า “เรารับรองเรื่องความปลอดภัยได้มากกว่า เพราะก่อนที่ทางกรมฯ จะออกใบอนุญาตขับขี่สาธารณะให้ เราจะต้องตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนอยู่แล้วครับ”ซึ่งจะสมเหตุสมผลหรือเปล่า อันนี้ต้องให้เพื่อนๆลองคิดดูครับ โดยส่วนตัวผู้เขียนแล้วคิดว่า ตอนสอบประวัติอาชญากรรม จะรู้ได้ไงว่า อนาคตเขาจะไม่ทำผิด?
กรมขนส่งได้อ้างว่า สาเหตุที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารนั้นมาจากหลายปัจจัย และปัญหานี้จะแก้ไขได้ด้วยการ "ขึ้นราคาค่าโดยสาร"โดยอ้างว่าเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่เมื่อคุณภาพชีวิตคนขับดี การบริการที่ดีก็จะตามมาพร้อมทั้งได้กำหนดค่าโดยสารใหม่แล้ว โดยจะมากกว่าราคาเดิมอยู่ 13%ถึงแม้กระทรวงคมนาคมจะสั่งชะลอการขึ้นค่าโดยสารก่อนเพราะแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจมาตราฐานจะยังไม่ถึง 85% แต่ทางกรมขนส่งได้กล่าวไว้ว่า จะมีการขึ้นค่าโดยสายแน่นอน
Image may be NSFW.
Clik here to view. ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Uber Taxi ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ในปัจจุบันก็คือ Application สำหรับเรียกรถนั้นเอง ซึ่งนี้เป็นจุดที่แท็กซี่หลากสีนั้นไม่มี ถึงแม้จะมีบางส่วนเข้าร่วมกับระบบของ Grab Taxi หรือ Esay Taxi แต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อย ทางกรมขนส่งเปิดเผยว่า กำลังซุ่มทำ Application สำหรับแท็กซี่หลากสีอยู่ โดยความสามารถหลักๆก็สรุปออกมาได้ดังนี้
- เมื่อขึ้นรถ สามารถสแกน QR Codeบนรถเพื่อเป็นการ Check-in เพื่อเก็บข้อมูลเข้าไปที่กรมขนส่งว่า เรากำลังนั่งรถคันนี้เวลานี้ ทำให้เมื่อเกิดเหตุอะไรไม่คาดคิด สามารถตามประวัติย้อนหลังได้
- สามารถ vote ให้คะแนนคนขับได้
โดยเบื่องต้นจะให้แท็กซี่ที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีประมาณ 70,000 คันทดลองใช้ก่อนในช่วงต้นปีหน้ากรมขนส่งได้กล่าวเสริมว่า การใช้ Application ในการเรียกรถแท็กซี่นั้นไม่ผิด เพราะว่ากฏกระทรวงนั้นไม่ได้มีการกล่าวเอาไว้ กรมขนส่งเลยต้องรีบทำการแก้ไขกฏกระทรวงเพื่อให้รองรับการมี Application ในระบบ
ในยุคที่ Smartphone กำลังบูมแบบนี้ อะไรที่สามารถทำเป็น Application ได้นี้ก็ดูเหมือนจะได้รับความนิยมทั้งนั้น เมื่อเทคโนโลยีใหม่มา ถ้าของเก่าไม่ปรับตัวก็จะอยู่ลำบาก เราคงต้องรอดูมหากาพย์แท็กซี่นี้กันต่อไป แต่ตอนนี้ ขอตัวไปปิดแก๊สก่อน เหมือนว่าน้ำจะเดือดได้ที่แล้ว ...
Source: ASTV ผู้จัดการ