Quantcast
Channel: DroidSans blogs
Viewing all 6898 articles
Browse latest View live

AIS Mobile Care บริการเปลี่ยนมือถือทันใจ ไม่ต้องซ่อม

0
0

มือถือหรือสมาร์ทโฟนตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หรือบางคนนี่ยกให้เป็นอวัยวะที่ 33 ในร่างกายไปแล้ว คือต้องติดมือตลอด นั่นก็เพราะมือถือตอนนี้มันทำอะไรได้หลายอย่างทั้ง ถ่ายรูป แชท แชร์ คุยงาน ติดต่อธุรกิจ หรือจะเข้าไปสู่โลก โซเชียลหรืออินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้คนไกลได้เขยิบเข้ามาใกล้กัน

บางคนลืมมือถือไว้ที่บ้านออกไปทำงานแล้ว ยังต้องวกกลับมาเอา หรือบางคนลืมชาร์จแบตนี่กระวนกระวายกลัวแบตหมด แล้วถ้ายิ่งมือถือพัง ตกแตก หรือเปิดไม่ติดขึ้นมานี่ ยิ่งกว่างานเข้าอีกนะครับ เพราะนอกจากจะต้องวุ่นวายหาทางซ่อมแล้ว บางครั้งไปเจอศูนย์บริการที่แย่ๆ ซ่อมนานบ้าง ไม่มีอะไหล่บ้าง ต้องรอกันเป็นเดือนๆ ผมเองก็เคยเอาไปซ่อมแล้วรออะไหล่ 3 อาทิตย์ บอกเลยว่าเซ็ง

ตอนนี้หลายๆ ค่ายมือถือก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประกัน เช่นสามารถเปลี่ยนเครื่องได้ใน 7 วันถ้ามีปัญหา หรือให้ซื้อประกันเพิ่ม เพื่อต่ออายุการประกัน ไม่ก็เพื่อลดค่าซ่อมกรณีเครื่องตกจอแตก หรือมีอาการเสียต่างๆ เหมือนพวกประกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมือถือนั่นเอง

เพื่อนๆ ผมที่เคยทำประกันพวกนี้ก็บอกว่ารู้สึกดีนะครับ คือเคยมีทำตกจอแตก ก็สามารถเอาประกันที่ซื้อไปเคลมได้จริง แต่ก็มีบ่นนิดนึงว่าต้องรอเครื่องซ่อม แล้วบางรายซวยกว่าเดิม ช่างซ่อมแกะเครื่องไม่ดี ได้รอยแถมมาด้วย เซ็งสุดๆ

เมื่อช่วงที่ iPhone 6 ออกวางขายวันแรก ที่ต้องไปจองไปต่อคิวกันเยอะๆ นั่นแหละ ก็มีเพื่อนผมฝากจอง iPhone 6 ของ เอไอเอส แล้วก็ได้ไปรับของวันแรกพอดี พอตรวจเครื่องเสร็จสรรพ พนักงานก็ยื่นเอกสารใบนึงมาให้ มันคือ AIS Mobile Careเพื่อนผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ประกันของ apple นั้นถือว่าไว้ใจได้ มีปัญหาก็ยังพอเคลมได้อยู่ แต่พอพนักงานบอกว่า AIS Mobile Careฟรีค่าบริการ 4 เดือนแรก และสามารถขอเปลี่ยนเครื่องได้ 2 ครั้งภายในระยะเวลา 8 เดือนนะคะ คราวนี้เพื่อนผมหันขวับ ตอบรับทันที คือถ้าเปลี่ยนเครื่องได้แบบนี้ ก็เหมือนได้เครื่องใหม่มาใช้เห็นๆ

ผมเองสงสัยก็เลยสอบถามพนักงานว่าโปรนี้มันใช้ได้แค่กับ iPhone รึเปล่า พนักงานก็บอกว่าได้กับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่ร่วมรายการ ช่วงนี้ใครที่ซื้อเครื่องใหม่กับ AIS จะฟรีค่าบริการรายเดือนของ AIS Mobile Care 4 เดือนแรก สำหรับแพ็กเกจเปลี่ยนเครื่อง 8 เดือน ส่วน 4 เดือนหลัง มีค่าบริการตามราคาของมือถือ ถ้ามือถือแพงๆ ก็เดือนละ 99 บาท ถ้าถูกหน่อยก็ 69 บาท

บริการ AIS Mobile Careเป็นบริการสำหรับลูกค้า AIS ที่ซื้อเครื่องมือถือใหม่จาก AIS โดยมีราคาเริ่มต้นในการสมัครใช้ AIS Mobile Careถูกสุดที่เดือนละ 39 บาท สำหรับมือถือที่ราคาไม่เกิน 5,000 บาท

อืม.. ดูแล้วเป็นบริการที่น่าสนใจ คือถ้ากระบวนการขอเปลี่ยนเครื่องมันง่ายแบบขอปุ๊บเปลียนได้ปั๊บ ไม่ตรวจสอบเยอะจนปวดหัวแบบศูนย์บริการของแบรนด์มือถือนี่จะแจ่มแมวน่าสมัครสุดๆ

ส่วนของค่าบริการของการเปลี่ยนเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 25% ของราคาเครื่องเท่านั้น ลองคิดดูว่าถ้าเราไปทำเครื่องตกจอแตกนี่ ปกติที่ศูนย์เค้าก็ไม่รับประกันอยู่แล้ว ไหนจะโดนทั้งค่าจอ ค่ากรอบตัวเครื่องที่ถลอกปอกเปิกอีก นอกจากนั้นยังมีบริการรับเครื่องทดแทนในกรณีเครื่องหาย โดยค่าบริการรับเครื่องทดแทนอยู่ที่ 45% เท่านั้น คิดๆ ดูแล้วถูกกว่าซื้อเครื่องใหม่เยอะ ถือเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจครับ

 รายละเอียดของ AIS Mobile Careลองไปอ่านเพิ่มได้ที่ http://www.ais.co.th/mobilecare

 


ถ้าไม่รู้ว่าไปลืมของไว้ตรงไหน ลองให้ Motorola Keylink ช่วยหาไหมคะ

0
0

เชื่อว่าในทุกวันนี้ชีวิตของเรายุ่งวุ่นวายและมีเรื่องสำคัญๆ ให้ทำมากเกินกว่าจะมานั่งจำรายละเอียดเล็กๆ อย่างเช่นเรื่องวางกุญแจไว้ที่ไหน หรือกลับบ้านมาแล้วโยนกระเป๋าไว้ห้องใดใช่ไหมหละคะ ถ้าอย่างนั้นขอนำเสนอ gadget MUST HAVEสำหรับคนขี้ลืมโดยเฉพาะจากทางโมโตโรล่าอย่าง Motorola Keylink

Motorola Keylinkเป็น gadget ขนาดเล็กๆ ที่ให้เราเอาไปใส่ไว้กับของที่มักจะชอบหลงลืมวางทิ้งไว้เป็นประจำ อย่างพวกกุญแจต่างบ้าน กุญแจรถ ไปยันกระเป๋าต่างๆ โดยมันจะทำงานด้วยการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนของเราผ่านทางแอพ Motorola Connectจากนั้นเวลาที่เราหาของที่ต้องการไม่เจอก็สามารถหยิบอวัยวะชิ้นที่ 33 อย่างสมาร์ทโฟนของเราออกมากดเพื่อให้ Keylink ส่งเสียงร้องและระบุตำแหน่งสิ่งของต่างๆ ภายในรัศมี 100 ฟุตให้เราได้ทันที 

หรือในทางกลับกันถ้าดันหา Keylink เจอแต่ไม่รู้ว่ามือถือหายไปไหนก็ลองกดปุ่มที่ตัว Keylink สองครั้งเพื่อให้มือถือส่งเสียงร้องให้เราหาเจอง่ายขึ้นได้เช่นกันค่ะ

  

ด้านการทำงานนั้นหมดห่วงเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ไปได้เลยเพราะว่าเจ้า Keylink ทำงานโดยอาศัยถ่านกระดุมเพียงแค่ก้อนเดียวเท่านั้นก็จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึงหนึ่งปีเลย สำหรับใครที่สนใจอยากได้ Keylinkมาแก้อาการหลงๆ ลืมๆ ก็ลองไปหามาเล่นกันได้ที่สนนราคา $25 เท่านั้นค่ะ

 

Sourc : androidcentral

Square Enix เผยโฉม Final Fantasy : Brave Exvius ภาคพิเศษเฉพาะ Android และ iOS

0
0

Square Enixได้เปิดตัว Final Fantasyภาคใหม่ Brave Exvius ซึ่งจะเป็นภาคพิเศษที่จะทำขึ้นเพื่อสมาร์ทโฟนบน Android และ iOS เท่านั้น แน่นอนว่าเนื้อเรื่องนั้นก็จะเกี่ยวข้องกับผลึกคริสตัลที่เป็นแก่นของ Final Fantasy โดยในภาคนี้ Kay Hirono ได้ Hisatoshi Hayakashi จาก Brave Frontierมาร่วมทีมกำกับด้วย (ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชื่อ Brave ของภาคนี้มาจากไหน)

สาวกของ Final Fantasyเห็นภาพนี้แล้วน่าจะดีใจขนลุกขนพอง เพราะในภาคนี้อาจารย์ Yoshitaka Amano ได้กลับมาวาด Artwork ให้อีกครั้ง  :D 

Final Fantasy : Brave Exvius นั้นจะมีตัวละครหลักอยู่ 3 ตัวคือ Rein (พระเอก), Raswell (คู่อริ) และ Fiina (ฮีโร่ฝ่ายหญิง) และจากในภาพ Artwork จะเห็นว่ามีตัวเอกของ Final Fantasy 1 ถูกฝังอยู่ในคริสตัล และทางด้านซ้ายสุดของภาพก็มีอีก (ผมมองแล้วคล้ายๆ ภาพตัวละครจาก Final Fantasy 3)

แล้วมันหมายความว่าอย่างไรนะหรือ มันก็หมายความว่าใน FF Brave Exvius ตัวละครในภาคเก่าๆ จะมาร่วมต่อสู่ไปกับเรา หรือบางตัวก็จะโผล่มาในเนื้อเรื่องในภาคนี้ด้วย

  

ลองมาดูภาพในฉากต่อสู่ จะเห็นว่ามี Kain อัศวินมังกรจากภาค 4 มาร่วมทัพด้วย ส่วนตัวละครอื่นๆ นี่ผมไม่แน่ใจ (เพราะภาคล่าสุดที่เล่น FF คือภาค 7  Tongue ) ส่วนภาพทางขวาคือฉากเรียกอสูรอันสุดอลังการนั่นเอง

Final Fantasy : Brave Exvius จะวางใน Playstore และ iTune Store ของญี่ปุ่นก่อนในช่วงปลายปีนี้ (เป็นภาษาญี่ปุ่น) และคาดว่าต้นปีหน้าจะมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษตามออกมาช่วงต้นปี 2015

 

source : videogameblogger 

Google เพิ่ม Devices and Activity dashboard ให้เราตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้งาน account ของเราได้แล้ว

0
0

บัญชีผู้ใช้ของ Google หรือ Google accountนั้นถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Android อย่างเราๆ หรือแม้แต่จะย้ายไปใช้อุปกรณ์ iOS ก็ยังขาด Google account ไม่ได้อยู่ดี เพราะข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็น สมุดรายชื่อ, email, เอกสาร, รูปถ่าย และการผูกบัญชีเข้ากับบริการต่างๆของ Google ล้วนถูกบันทึกอยู่ใน Google account ทั้งหมด ดังนั้นการตรวจสอบและปกป้อง account ของเราอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรู้และต้องทำ ในแง่การปกป้อง account ทางเว็บเคยแนะนำ Two-step verificationไปแล้ว มาวันนี้ Google ได้เปิดตัวความสามารถใหม่ให้เราตรวจสอบอุปกรณ์แปลกปลอมที่มาใช้งาน account ของเราได้แล้ว มันคือ Google Devices and Activity dashboardนั่นเองครับ

เราสามารถเข้าไปในหน้า Devices and Activity dashboardได้ผ่านทาง URL นี้ https://security.google.com/settings/security/activityโดยหน้านี้จะแสดงข้อมูลอุปกรณ์ต่างๆที่เข้าใช้งาน account ของเราภายใน 28 วันที่ผ่านมา โดยจะมีข้อมูลวันเวลาและชื่อสถานที่ที่อุปกรณ์นั้นเข้าใช้งาน account ของเราครั้งล่าสุด โดยถ้าเราตรวจเจออุปกรณ์ต้องสงสัยก็สามารถลบชื่ออุปกรณ์นั้นออกไปได้และจะเป็นการยกเลิกสิทธิ์ของอุปกรณ์นั้นไม่ใช้ใช้งาน account เราได้อีก

จริงๆแล้ว Google Play Storeก็มีส่วนของ My Devicesให้เราเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่เคยลงทะเบียนไว้กับ Play Store account ของเราด้วย แต่จะไม่ได้ชื่อวันเวลาและสถานที่เหมือนกับ Dashboard ด้านบนเพราะวัตถุประสงค์มันคนละอย่างกันนะครับ ว่าแต่เพื่อนสมาชิกแต่ละคนใช้อุปกรณ์อะไรต่อกับ Google account ตัวเองบ้าง เอามาอวดหน่อยเร้วว

 

ที่มา:Googleผ่าน Pocketnow

Android One เริ่มวางขายในอังกฤษผ่าน Amazon คาดเผชิญชะตากรรมเดียวกับที่อินเดีย

0
0

หลังจาก Google ได้เปิดโครงการนำร่องสมาร์ทโฟนราคาประหยัด Android Oneที่อินเดียเป็นประเทศแรกไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดทาง Amazon UKก็ได้ติดต่อนำเอา Karbonn Sparkle V หนึ่งในสามศรีพี่น้อง Android One รุ่นบุกเบิกเข้ามาวางจำหน่ายในอังกฤษแล้ว ซึ่งอีก 2 รุ่นคือ Micromax Canvas A1 และ Spice Dream Uno นั่นเอง

Sparkle Vนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 4.5 นิ้ว, ชิพ MTK 1.3GHz quad-core, RAM 1GB, ROM 4GB กล้อง 5MP และกล้องหลัง 2MP พร้อมยังจะได้รับอัพเดทเป็น Android 5.0 Lollipop ในปลายเดือนมกราคมนี้ ในราคา 129 ปอนด์ (ราวๆ 6,xxx บาท) ซึ่งดูท่าทางแล้วน่าจะเจอสถานการณ์ที่ลำบาก ขายยากแบบเดียวกับในอินเดีย

ปัญหา Android One ขายไม่ดีในอินเดีย นั้นถึงแม้จะมีเรื่องของการสั่งซื้อที่มีขายแค่บน Online นั้นเป็นปัญหานึง แต่เอาจริงๆ แล้วสเปคกับราคาของ Android Oneนั้นไม่ได้ "ถูกและดี"อย่างที่คาด และคาดว่าในอังกฤษก็คงเจอปัญหาเดียวกัน ซึ่งเรื่องของสเปคและราคานั้น Motorola ลูกหม้อเก่าของ Google เองปรับราคา Moto G รุ่น 2013 อยู่ที่ 127 ปอนด์ ได้หน้าจอคมกว่า แบตเตอรี่ใหญ่กว่า หน่วยความจำเยอกว่า แถม Moto G รุ่น 2014 ก็ยังมีราคาแค่ 139.95 ปอนด์ แล้วแบบนี้ Android Oneจะเอาอะไรไปสู้

ดูท่าทางโครงการ Android Oneรุ่นแรกของ Google ที่เป็นแบรนด์โนเนมน่าจะเกิดยากแล้วหละครับ ต้องรอดูว่าในเฟส 2 ที่เหล่าอินเตอร์แบรนด์อย่าง Acer, Asus, Alcatel, HTC, Lenovo สนใจเข้าร่วมเนี่ย จะช่วยผลักดันและต่อชะตาโปรเจคนี้ของ Google ได้หรือไม่

 

source : gsmarena

มาแล้ว LG Wine Smart สมาร์ทโฟน Android ฝาพับจาก LG

0
0

หลังจาก LGเปิดตัว Wine Smartสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการณ์ Android ในรูปทรงฝาพับไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดตอนนี้ผลิตเสร็จเรียบร้อย พร้อมจะเริ่มวางจำหน่ายใประเทศเกาหลีใต้แล้วในวันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้ 

LG Wine Smartเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาโดยมีเป้าหมายไปที่ผู้สูงอายุที่เคยชินกับแป้นปุ่มกดมากกว่า และไม่ถนัดในการใช้หน้าจอสัมผัส (หน้าจอของ Wine Smart ไม่ใช่จอสัมผัส) นอกจากนั้นแล้วยังออกแบบมาสำหรับผู้พิการที่มีปัญหาในการใช้หน้าจอสัมผัส ก็สามารถใช้ปุ่มกดได้ง่ายและคล่องกว่านั่นเอง 

ตัวเครื่องของ Wine Smartนั้นทำออกมาด้วยกัน 2 สีคือขาวและดำ ทั้งคู่มีขอบสีทอง ส่วนสเปคนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร เพราะทำมาเพื่อการใช้งานทั่วไปเท่านั้นครับ

  • Android KitKat 4.4
  • ชิพ Qualcomm® Snapdragon 1.2 GHz dual-core
  • หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด HVGA
  • ROM  4GB
  • RAM  1GB
  • มีช่อง microSD รองรับสูงสุด 32GB
  • กล้องหลังความละเอียด 8MP
  • กล้องหน้าความละเอียด VGA
  • แบตเตอรี่ 1,700 mAh
  • ขนาดตัวเครื่อง 118.6 x 59.4 x 16.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 149 กรัม
  • รองรับ 2G : 850/900/1800/1900 MHz  3G : 850/1900/2100 MHz  4G LTE : 900(B3)/1800(B8) MHz Cat4 

 

source : eprice

Preview : พรีวิว HTC Desire Eye และ RE Camera

0
0

HTC Desire Eyeมือถือกล้องหน้าหลังชัดเท่ากันจาก HTCรุ่นนี้เปิดตัวมาเพื่อตอบโจทย์ที่รักการถ่ายภาพ selfie เป็นชีวิตจิตใจ แต่บางคนก็อาจจะมีเหน็บว่ากล้องหน้าชัดไปสาวๆ ไม่ชอบหรอก (แต่จากประสบการณ์ตรง ยิ่งชัด ยิ่งคม สาวๆ ยิ่งชอบนะครับ Love )

ถ้าลองไล่ย้อนกลับไปจะเห็นว่าปีนี้ HTCเป็นค่ายที่สร้างจุดแข็งในเรื่องกล้องหน้ามาตลอดทั้งปี (กล้องหลังก็ดีขึ้นหลังจากยกเลิก Ultra Pixel ไปละ Tongue ) ตั้งแต่ One M8 ที่กล้องหน้า 5MP แล้วก็ไล่เรียงภายในปีเดียวกัน อัพกล้องหน้าขึ้นไปอีกจนคลอดออกมาเป็น HTC Desire Eyeที่กล้องหน้า 13MP รุ่นนี้ แถมยังขยายความสนใจในเรื่องกล้องไปผลิต HTC Re Camera ออกมาอีกเครื่องนึง

สัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปลองจับๆ เล่นๆ ทั้งคู่ วันนี้เลยขอ พรีวิว HTC Desire Eyeและ RE Cameraรวดเดียวเลย

HTC Desire Eyeนั้นถึงแม้หน้าตารูปร่างทรวดทรงจะไปละม้ายและคล้ายกับ Desire 816 ในตระกูลเดียวกัน คือวัสดุหลักยังคงเป็นพลาสติก แต่ก็ต้องขอบอกว่าภายในนั้นแตกต่าง เพราะ Desire Eyeนั้นใช้สเปคเดียวกับ One M8 ทั้ง หน้าจอ Full HD 5.2 นิ้ว, ชิพ Snapdragon 801, RAM 2GB, ROM 16GB และยังสามารถใส่เมมเพิ่มได้ด้วย

โดย Desire Eyeนั้นถูกจับให้เป็นเครื่องต้นแบบของ HTC Eye Experience หรือประสบการณ์กล้องถ่ายภาพที่แตกต่างจาก HTC ที่เน้นในเรืองของความง่าย สนุก มีเรื่องราว และใช้งานได้ร่วมกัน

ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ของ Eye Experience นั้นได้เริ่มทยอยอัพเดทให้กับรุ่นก่อนหน้าเช่น One M8 ไปบ้างแล้ว

ส่วนฟังก์ชั่นใหม่ๆ อย่างเช่น Crop me in ที่สามารถใช้กล้องหน้าหลังถ่ายภาพพร้อมกัน แล้วมันจะตัดเราไปอยู่ในฉากหลังได้ทันทีนั้นจะเริ่มทยอยอัพเดทในช่วงที่สองของการปล่อย Eye Experience ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า

กล้องหน้าและกล้องหลังของ Desire Eye นั้นถึงแม้จะความละเอียดเท่ากันแต่ใช้เลนส์คนละตัว โดยกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP มี Auto-focus, BSI sensor, f/2.2, เลนส์ 22mm, รองรับการถ่าย HDR อัดวิดีโอที่ 1080p Full HD และมีไฟ Dual LED Flash

กล้องหลังความละเอียด 13MP, BSI sensor, f/2.0, เลนส์ 28mm, รองรับการถ่าย HDR อัดวิดีโอที่ 1080p Full HD และมีไฟ Dual LED Flash ดูจากสเปคแล้วก็เห็นว่ากล้องหน้านั้นเลนส์มีความกว้างมากกว่า

ขอบรอบตัวเครื่องของ HTC Desire Eyeนั้นเป็นยางครับ ส่วนนึ่งน่าจะมาจากการออกแบบมาให้เป็นสมาร์ทโฟนทนน้ำ ได้มาตรฐาน IPX/7 มาด้วย ก็จมได้ลึก 1 เมตร ประมาณครึ่งชั่วโมง ใช้ nano SIM รองรับ 4G ที่เห็นติดๆ กันเป้นช่อง microSD   

เห็นสีขาวไปแล้วมาดูสีฟ้าบ้าง ด้านหน้าสีจะดูแปลกๆ หน่อยคือมันไม่ใช่สีขาว แต่เป็นสีฟ้าจางๆ อ่อนๆ ของยางเป็นสีฟ้า แล้วฝาหลังเป็นสีน้ำเงินเข้ม

ลำโพงของ HTC Desire Eyeยังเป็น Boom Sound นะครับ ตำแหน่งของลำโพงมันอยู่บริเวญขอบจอบน-ล่าง พอดี จะเป็นร่องเล็กๆ ยาวๆ ลองสังเกตุดูดีๆ แล้วจะเห็น 

ไหนๆ ก็ได้มาลองแล้ว จับกดน้ำเลยดีกว่า 

เจอภาพนี้บางคนอาจจะตกใจ "ซวยแล้วน้ำเข้าพอร์ท micro USB"บอกเลยว่าไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะช่อง micro USB และช่องหูฟัง 3.5 มีการเคลือบสารกันน้ำ nano coating เอาไว้ น้ำไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ได้ 

มาถึงคิวของ RE Cameraกล้องทรงท่อจาก HTC กันบ้าง ดูๆ ไปแล้วคล้ายกล้องที่โผล่มาจาเรือดำน้ำยังไงยังงั้น ตัวกล้องของ RE มีความละเอียด 16MP ใช้เซนเซอร์ 1/2.3" Sony CMOS เลนส์สามารถเก็บภาพได้กว้าง 146 องศา f2.8 และถ่ายวิดีโอได้ทีความละเอียด 1080p 30fps

ทาง HTC บอกว่าที่ออกแบบและดีไซน์มาเป็นแบบนี้ มันน่าจะจับได้สะดวกที่สุด คือเป็นทาจับปกติของคนทั่วไป มันเหมือนกับเรากำหมัดเท่านั้นเอง คือหยิบขึ้นมาก็เป๊ะพอดีมือเลยแบบนั้น

RE Cameraนั้นควบคุมการทำงานผ่าน WiFi Direct และสามารถใช้กับ Android ยี่ห้อไหนก็ได้แค่ติดตั้งแอป RE จาก Playstore ใช้ได้แม้กระทั่ง iPhone

เร็วๆ นี้จะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของ RE Cameraออกมาอีกเพียบ มีทั้งตัวยึดกับจักรยาน แบตสำรอง สาวรัดติดกับเสื้อ

การใช้งาน RE Cameraนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เปิดช่องใส่ micro SD ที่ท้ายเครื่อง (ฝาปิดโคตรแข็ง ผมเกือบทำเล็บฉีก สุดท้ายต้องหาอะไรมางัด) แล้วใส่เมมเข้าไป ชาร์จแบต เปิดเครื่องก็ใช้งานได้แล้ว ปุ่มสีเงินๆ นั้นกดปั้บถ่ายรูปปุ๊บ ถ้ากดค้างไว้จนมีเสียง ปิ๊ด จะเป็นการเริ่มถ่ายวิดีโอ

จะเห็นว่าท้ายของกล้องนั้นมีเกลียวของขาตั้งกล้องอยู่ด้วย สามารถไปหมุนใส่ได้เลย

ในกรณีที่ต้องการมองภาพด้วย เราก็แค่เชิ่อมกล้อง RE Cameraเข้ากับ แอป RE บนสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง

แน่นอนว่า RE Cameraก็ได้รับมาตรฐาน IPX/7 ทนน้ำได้เหมือนกัน แต่อันนี้มีฝาปิดท้ายเครื่องมาด้วย  Laughing out loud

อ้อ! ปุ่มด้านหน้าที่อยู่ใต้กล้องนั่นคือปุ่ม slow motion ครับ เอาไว้ถ่ายวิดีโอแบบ slow motion 4x ที่่ความละเอียด 720p 

ตัวอย่างของภาพถ่ายและวิดีโอจาก RE Cameraอยู่ในคลิปพรีวิวด้านล่างนี่แหละครับ

 

= Preview : พรีวิว HTC Desire Eye และ Re Camera = 

 

HTC Desire Eye จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 3 ธันวาคม 2557 นี้ ซึ่งราคาก็ยังไม่มีการประกาศออกมา ไม่แน่ใจว่า ราคา Desire Eye ที่หลุด ออกมาก่อนหน้านี้จะตรงแค่ไหน แต่ก็คาดว่าน่าจะราวๆ หมื่นกลางๆ สัก 15,xxx-16,xxx บาท ส่วน Re Camera เห็นว่าจะขายทีหลังครับ อาจจะเป็นปลายธันวาหรือไม่ก็ต้นปีหน้าโน่นเลย 

Google Play Store บอกว่าเครื่องเราไม่รองรับ App งั้นเหรอ? Download APK จาก Play Store เลยละกัน

0
0

เคยมั้ย?เวลามี App หรือเกมส์ใหม่ๆน่าสนใจเปิดตัวใน Google Play Store หรือ App ที่เราใช้มี update ใหม่ พอจะเข้าไปสั่ง Install หรือ Update ปรากฏว่า App นั้นไม่รองรับอุปกรณ์ของเรา จะด้วยเหตุผลว่า "ยังไม่รองรับประเทศไทย", "เครื่องของเราสเปกไม่ถึง", "พื้นที่ไม่พอให้ติดตั้ง"หรือ "ใช้ได้กับอุปกรณ์ของ Samsung เท่านั้น"ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ยังอยากลองใช้งาน App พวกนี้อยู่ดี เพราะเรามั่นใจว่าอุปกรณ์ของเราสามารถใช้งาน App พวกนี้ได้แน่นอน ถ้าอย่างนั้นเอายังไงดี? Download APK จาก Play Store ตรงๆมาติดตั้งเองเลยละกัน 

APK คืออะไร?

สำหรับท่านที่ไม่รู้ว่า APK คืออะไร? มันคือ file ของ App ที่เราสามารถนำมาติดตั้งในมือถือและแท็บเล็ต Android ของเราได้โดยไม่จำเป็นต้องไปติดตั้งผ่านทาง Play Store ก็เหมือนกับการที่เราติดตั้งโปรแกรมในเครื่องคอมที่เราไปซื้อหรือ download มาจาก internet แล้วคลิกที่ setup.exe หรือ install.exe เพื่อติดตั้งโปรแกรมนั่นเองครับ 


Download ตัว APK จาก Play Store ได้อย่างไร?

การ download สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนดังนี้ 

คำเตือน:วิธีการต่อไปนี้ไม่เป็นไปตามข้อตกลงการใช้งาน Google Play Store และเป็นการฝ่าฝืนโดยตรง โปรดใช้วิจารณญาณของตัวเองในการตัดสินใจ

1) เปิด Browser แล้วเข้าไปยัง Link นี้ http://apps.evozi.com/apk-downloader/แล้วเอา URL ของ App ที่เราต้องการ download จากหน้า Play Store มาใส่ในกล่องข้อความ "Package name or Google Play URL"แล้วกดปุ่มสีน้ำเงิน "Generate Download Link"ตามรูป 

ตัวอย่าง URL ของ Microsoft Office Mobile Appที่ยังไม่เปิดให้ download ในไทย 
 
 
 
2) เมื่อกดปุ่มแล้วจะมีข้อมูลของ APK โผล่ขึ้นมาด้านล่างของกล่องข้อความพร้อมปุ่มสีเขียว ให้เรากดปุ่ในี้เพื่อ download ตัว APK file ได้เลย
 
 
3) เลือก save บน folder ที่ต้องการได้เลย
 
 
เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้เราก็มี APK file เห็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเรียบร้อย จากนั้นก็ให้เสียบสาย USB เข้ากับอุปกรณ์ของเราแล้วก็ copy ไปติดตั้งในเครื่องได้เลย อาจจะมีคำถามเพิ่มเติมว่า
 
APK file ที่เราได้มาคืออันเดียวกับที่อยู่ใน Play Store เลยใช่หรือไม่?
ใช่ครับ ดังนั้น APK ที่ได้มาจะเป็นตัวเวอร์ชันล่าสุดแน่นอน
 
เราสามารถ download APK ของ App ที่ต้องจ่ายเงินได้หรือไม่?
ไม่ได้ครับ เพราะจะเป็นการขโมย
 
แล้วเว็บ APK downloader สามารถ download APK ได้กี่ตัวต่อวัน
ทางเว็บบอกว่า สามารถ download ได้ประมาณ 1,400 APK ต่อวัน 
 
 
วิธีการนี้จะช่วยให้เรา download APK ได้รวดเร็วมากขึ้น หรือถ้าจะให้ง่ายกว่านี้ เราสามารถรอ download จากเว็บ http://www.apkmirror.com/ได้ เพราะที่นี่จะมีการนำ APK file ของ App ดังๆใหม่ๆมาแชร์ให้ download เรื่อยๆครับ
 
ที่มา:Evosi's APK Downloader

แฟน LG ยิ้ม นึกว่า G3 ได้อัพเดท Lollipop แล้ว สุดท้ายเฮเก้อ แค่อัพเดท PC Suite

0
0

เมื่อวานนี้มีาสมาชิกเวบของเราทีใช้งาน LG G3ได้ไปพบว่าหลังจากเปิด LG PC Suite บนคอมพิวเตอร์ มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา พูดถึง Android 5.0 Lollipop Guide งานนี้ดีใจกระโดดตัวลอย รีบชาร์จแบตมือถือแล้วเสียบสายต่อ LG G3 กับคอมพ์แบบเร่งด่วน ด้วยอารมณ์เป็นปลื้มจะได้กิน Lollipop ก่อนใครๆ

ด้วยความรีบร้อน พอต่อสายเสร็จ มาเห็นหน้าแจ้งเดือนอัพเดทหมายเลขเวอร์ชั่นแบบนี้ ยิ่งตื่นเต้น รีบกดอัพเดทไปเลย

รีบจนลืมอ่านว่า.. มันเป็นการอัพเดท LG PC Suiteเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ยังไม่ใช่การอัพเดทมือถือ ซึ่งทาง LG ปล่อยอัพเดทนี้ออกมาเพื่อให้ PC Suite รองรับอุปกรณ์ที่เป็น Lollipop ได้นั่นเอง (แล้วจะเด้งหน้า Lollipop Guide ขึ้นมาทำไม)

แท่นแท้น หลังจากอัพเดทเสร็จ LG PC Suite ของทุกท่าน ก็จะรองรับมือถือและแท็บเล็ตที่เป็น Lollipop แล้วจ้า.. แต่ตอนนี้ในบ้านเรายังไม่ปล่อยอัพเดทมาเลย ทั้งๆ ที่ LG G3 นี่มีข่าวก่อนใครแท้ๆ กลับเงียบหายไปเฉยๆ ซะงั้น

ยังไงก็มาเร็วๆ หละ แฟนๆ LG เค้ารอกันอยู่นะ

 

หลุดภาพ iPhone 6 Plus สีชมพู สนใจไหมถ้ามันจะมีขายจริงๆ

0
0

  

iPhone 6และ iPhone 6 Plusนั้นมีวางจำหน่ายแค่ 3 สีอย่างที่รู้ๆ กัน นั่นก็คือ สีเงิน Silver, สีเทา Space Grey, และ สีทอง Gold

แต่ล่าสุดกลับมีภาพของ iPhone 6 Plus สีใหม่หลุดออกมาจากเครือข่าย Weibo ในจีน เป็นสีชมพูแบบหวานแหววแต๋วจ่า ที่เห็นตอนแรกก็คิดว่ามันจะเป็นของจริงหรือเปล่า ไม่แน่ว่า Appleอาจจะมีแผนเพิ่มสีให้กับ iPhone ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์?

แต่สืบไปสืบมาก็พอจะรู้ได้ว่า Appleนั้นไม่มีแผนที่จะผลิด iPhone 6 Plus สีชมพู และแน่นอนว่ามันจะไม่ใช่รุ่นพิเศษ Limited Edition ที่ขายเฉพาะในประเทศจีน

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าของภาพนั้นไปได้ iPhone 6 Plusสีชมพูนี้มาจากไหน อาจเป็นไปได้ว่าเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมา อาจมีการพ่นหรือทำสีลงบนตัวเครื่องก็เป็นได้

 source : phonearena

 

Samsung จดสิทธิบัตร Smart Watch หน้าปัดกลม พร้อมวงแหวนควบคุมบนหน้าปัดนาฬิกา

0
0

ถ้าเทียบกันแล้วตลาด Smart Watchยังเป็นตลาดที่เล็กกว่าตลาดมือถือ และสมาร์ทโฟนหลายเท่า แต่นั่นก็หมายถึงว่ายังมีช่องทางในการเติบโตให้เห็น และหลายๆ บริษัทก็พยายามที่จะผลิต Smart Watchออกมาเพื่อชิงพื้นที่ตลาดตรงนี้ให้ได้ จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมานั้นมีการออกสินค้าใหม่ๆ มาตลอด และเปลี่ยนแปลงไปในแทบจะทุกรุ่น

จุดหนึ่งที่ Smart Watchนั้นด้อยกว่าสมาร์ทโฟนเห็นๆ คือเรื่องของหน้าจอสัมผัสที่มีขนาดเล็ก ทำให้การใช้งานหลายๆ อย่างอาจจะยากลำบากเกินไป เพราะแค่นิ้วไปแตะก็เต็มหน้าจอแล้ว Apple Watchเลยมีการเสริมเอา Digital Crown หรือ เม็ดมะยม มาใช้เป็นตัวช่วยในการควบคุมเพิ่มเติม เช่นการซูมเข้าออก

แน่นอนว่า Samsungเจ้าของตลาดรายใหญ่ด้วยผลิตภัณฑ์ตระกูล Gear ทั้งหลายก็ยังหาวิธีควบคุม Smart Watch ที่นอกเหนือไปจากหน้าจอสัมผัสเช่นกัน โดยได้มีการจดสิทธิบัตรการใช้งาน "วงแหวนบนหน้าปัดนาฬิกา"ในการหมุนไปมาเพื่อเป็นการควบคุมเสริม และสิทธิบัตรชิ้นนี้ Samsungได้จดไว้ตั้งแต่ ปี 2013 เลยทีเดียว

จริงๆ หน้าปัดนาฬิกาแบบที่หมุนได้นี่ หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันดีกับพวกนาฬิกาแบบสปอร์ต หรือพวก G-Shock ก็มีกรอบบนหน้าปัดที่หมุนได้เอาไว้สำหรับการตั้งเวลาอะไรแบบนั้น ซึ่งในตอนแรกมีการคาดกันว่า Samsung จะเปิดตัว Smart Watchหน้าปัดกลมพร้อมการควบคุมด้วยวงแหวนภายในช่วงเดียวกับการเปิดตัว Note 4 ภายใต้ชื่อ Gear อะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายแล้วก็เงียบหายไป และมีการเปิดตัว Gear S ออกมาแทน

งานนี้ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้เห็น Smart Watchพร้อมการควบคุมด้วยวงแหวนกันหรือไม่ ส่วนตัวแล้วผมว่าการหมุนๆ แบบนี้สะดวกกว่าเม็ดมะยมแน่ๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีวงแหวนหมุนๆ ไว้ทำอะไร คงต้องรอให้ Samsungคิดให้จบก่อนว่ามีแล้วมันว่้าหรือมันช่วยอะไรไหม เพราะเท่าที่ใช้ Android Wear ตอนนี้แต่แตะๆ ถูๆ ก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว

 

source : sammobile 

วิธีขอซื้อมือถือแบบเนียนๆ ที่แฟนคุณไม่มีทางจับได้

0
0

คลิปนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากให้แฟนซื้อมือถือใหม่ให้ ซึ่งวิธีที่เธอใช้ก็ช่างเหนือความคาดหมาย เห็นแล้วถึงกับต้องคลิกเข้าไปดูที่เว็บต้นทางว่ามันมีอุปกรณ์แบบนี้ขายจริงรึเปล่ากันเลยทีเดียว ส่วนว่ามันจะเป็นอะไรนั้นแนะนำให้เข้าไปลองกดกันดูเอาเอง แล้วก็ช่วยผมมองหน่อยว่ากางเกงมันยาวแค่ไหนกันแน่ Tongue

  

Bluesmart กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะที่ให้เราปลดล็อคและติดตามกระเป๋าได้ผ่านมือถือ

0
0

 

ในการเดินทางแต่ละครั้งหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "กระเป๋าเดินทาง"เพราะว่าเป็นที่เก็บเสื้อผ้า ของใช้และสรรพสิ่งเพื่อให้เราไปดำรงชีวิตนอกบ้านได้ ซึ่งก็เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเคยเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าเดินทางแตกต่างกันไป บางคนอาจจะเคยทำกระเป๋าหาย, โดนขโมย ไปจนถึง shop เกินโควต้าขากลับน้ำหนักเกิน เป็นต้น ... แล้วจะดีกว่าไหมถ้าเกิดว่าเรามีกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะที่จะสามารถช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้แบบ all-in-one? และนี่คือที่มาของ Bluesmartหนึ่งในโปรเจคระดมทุนจากเว็ปไซต์ Indiegogoค่ะ

Bluesmartนั้นเป็นกระเป๋าเดินอัจฉริยะที่ได้รับการออกแบบพร้อมดีไซน์เรียบเก๋ แต่ใส่ฟังชั่นต่างๆ มาให้เราใช้จัดการกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครบ โดยในกระเป๋าที่ว่านี้จะมี GPS สำหรับระบุตำแหน่งในตัวเพื่อให้เราสามารถติดตามกระเป๋าได้หากเกิดการสูญหายหรือไปหลงลืมเอาไว้ที่ไหน นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สำหรับชั่งน้ำหนักกระเป๋าให้เรารู้ก่อนขึ้นเครื่องว่าน้ำหนักเกินกระเป๋าเกินหรือไม่ จะต้องเอาอะไรออกหรือจะกระขายของไปใส่กระเป๋าไหนได้บ้าง แถมยังสามารถดูข้อมูลการเดินทางของเราได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนอีกด้วยนะ 

ส่วนเรื่องการล็อคหรือการปลดล็อคกระเป๋า Bluesmart ก็ไฮเทคสุดๆ เพียงแค่สั่งงานผ่านทางสมาร์ทโฟนก็สามารถเลือกเปิด-ปิดกระเป๋าได้ทันที แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะลืมกดล็อคกระเป๋าด้วยเพราะว่าถ้าหากว่ามือถือห่างจากกระเป๋าปุ๊บมันก็จะทำการล็อคตัวเองปั๊บค่ะ ... แต่เมื่อเป็นแบบนี้หลายๆ คนอาจจะกังวลว่า "อ้าว.. แล้วถ้ามือถือแบตหมดหละจะทำยังไง?"เรื่องนี้ทางผู้ผลิตเขาก็คิดมาแล้วเพราะว่าได้ใส่ฟีเจอร์ power bank มาให้เราสามารถชาร์จแบตมือถือผ่านกระเป๋า Bluesmartได้ด้วย เลิศและครบสุดๆ!

ทั้งนี้กระเป๋า Bluesmart รุ่นแรกจะพร้อมออกวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ถ้าเกิดว่าใครที่สนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดหรือสั่งจองกันได้ที่หน้าเว็บไซต์ bluesmart.comนะคะ :]


Source: Indiegogo

Sony มีแผนจะผลิต Smart Watch ที่ทำจาก E-Paper ทั้งเรือน

0
0

Sony นับว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการ Smart Watchและ Wearable Device เพราะนับจนถึงตอนนี้ก็มี Smart Watch ออกมาต่อเนื่องถึง 3 รุ่นแล้ว และก็ยังมี SmartBandและ SmartBand Talkที่เป็น Wearble ในด้านตรวจจับกิจกรรม หรือ activity tracker

ล่าสุดทางด้าน Bloombergได้รายงานว่า Sonyเองมีแผนที่จะผลิต Smart Watchที่ประหยัดพลังงาน และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าปัจจุบันที่ใช้หน้าจอ LCD แล้วแบตอยู่ได้ไม่ถึงวัน ด้วยการใช้E-Paperมาผลิตแทน และไม่ใช่แทนแค่หน้าจอ แต่จะใช้ E-Paperทำทั้งตัวเรือนเลย

แน่นอนว่าข้อดีของ E-Paperและ E-Ink คือมันประหยัดแบต และ Sonyเองก็ถือว่าคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้อยู่แล้ว เพราะผลิต E-Book มามากมายหลายรุ่นเหมือนกัน

ข้อดีอีกอย่างคือเมื่อทั้งตัวเรือนนาฬิกาเป็น E-Paperเรากก็สามารถสร้างสรรค์ลวดลายบนนาฬิกาได้ตามใจ จะให้สายเป็นแบบไหน หน้าปัดเป็นอย่างไรก็ทำได้ (สังเกตุจากภาพหัวข้อข่าว) ซึ่งคาดการว่า Sony น่าจะพร้อมเปิดตัวในปี 2015

 

source : bloomberg via vr-zone

 

ส่วนตัวผมมองว่า E-Paper และ E-Ink มันประหบัดแบตก็จริง แต่ปัญหาของมันคือ refresh rate ที่ต่ำมากๆ กว่าจะเปลี่ยนกว่าจะดูข้อมูลแต่ละอย่างนี่ ต้องรอกันเป็นวิ แล้วถ้าสุดท้ายตัว Smart Watch ออกมาหน้าตาไม่สวย แถมสียังเป็นขาวดแบบนี้ สุดท้ายก็ไปสู้กับ Apple Watch, Samusng Gear หรือแม้แต่ Android Wear ของตัวเองไม่ได้อยู่ดี งานนี้ก็ไม่รู้ว่า Sony คิดยังไงเหมือนกัน

Uber X และ Black โดนสอยจากกรมขนส่งแล้ว!! (updated: Uber ส่ง SMS หาคนขับ "ไม่ต้องห่วง ออกมาขับกันเยอะๆ")

0
0

จากที่มีประเด็นเรื่องของ Uber X และ Black มานานว่ามันผิดกฎหมายและสามารถวิ่งได้หรือไม่ ซึ่งเราก็เคยเสนอความเห็นของนักกฎหมายไปก่อนหน้าที่ทุกคนชี้แจงตรงกันว่าผิดชัวร์ๆ มาวันนี้มีจดหมายข่าวของกรมขนส่งทางบกฟันธงมาแล้วว่า Uber ผิดแน่นอนใน 3 ประเด็น ได้แก่

  1. ใช้รถยนต์ผิดประเภท (ทั้งป้ายเขียวและป้ายดำ
  2. ค่าโดยสารไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
  3. ผู้ขับไม่มีใบขับขี่สาธารณะ

สำหรับใครที่ยังขับและให้บริการ Uber อยู่ทางกรมขนส่งเตรียมตรวจสอบและลงโทษด้วยการปรับเป็นเงิน 2,000 บาทจากข้อหาใช้รถยนต์ผิดประเภท และอีก 1,000 บาทจากการที่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ

นอกจากนี้ทางกรมขนส่งฯ ยังแสดงความเป็นห่วงผู้ใช้ที่จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตว่าอาจไม่ปลอดภัย และรถที่ให้บริการไม่อยู่ในฐานข้อมูลรถสาธารณะของกรมฯ รวมถึงค่าบริการที่แพงกว่าแท็กซี่ทั่วไป...แต่ทางกรมอาจจะลืมไปว่าผู้โดยสารหลายๆคนโดนแท็กซี่ปล้นจากการที่ไม่มีเงินทอน คนขับหน้าไม่ตรงกับใบอนุญาตที่แปะบนรถ และการโดนโกงมิเตอร์จากแท็กซี่หลายๆราย

ถือว่าเป็นความน่าเสียใจและน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่กรมขนส่งฯเลือกใช้มาตรการนี้แทนการกวักมือเรียกให้เหล่าผู้ให้บริการมาลงทะเบียนและปรับการให้บริการให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมให้บริการต่อได้เหมือนที่ "ประเทศสิงคโปร์"2เพื่อเป็นทางเลือกแก่เหล่าผู้บริโภค กระตุ้นตลาดให้เกิดการแข่งขัน มีการพัฒนา ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วพวกเราๆก็คงต้องทนรับกรรมเจอแท็กซี่พฤติกรรมแย่ๆกันต่อไป

สวัสดี

ที่มาBlognone(1,2)

[Updated 4:15pm] @twometre หนึ่งในผู้ขับของ Uber ออกมาทวิตบอกว่าได้รับ SMS จาก Uber ว่าไม่ต้องห่วง มีปัญหาอะไรเราดูแลเอง ขับกันให้เยอะๆเลย!!

 

 


เคาะแล้ว ราคา HTC RE Camera 6,790 บาท แต่กำหนดวางขายในไทยยังไม่ยืนยัน

0
0

HTCกำลังจะจัดงานเปิดตัว Desire Eyeและ RE Camera ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ที่ Central World โดยในงานนี้จะเปิดวางจำหน่าย Desire Eyeเป็นวันแรกในประเทศไทย ส่วน RE Cameraกล้องสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกหลากสี ลุยไปกับคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าจะแปะหัวหรือติดกับจักรยาน ถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปวิดีโอก็ง่ายดายในปุ่มเดียวนั้น.. ยังไม่มา  Tongue

แม้ว่ากำหนดวางจำหน่ายของ HTC RE Camera ในไทยนั้นจะยังไม่มีการยืนยันวันที่แน่นอน แต่ว่าล่าสุดก็มีราคาของมันหลุดออกมาแล้ว โดยจะวางจำหน่ายที่ 6,790บาท สำหรับใครที่อยากลองเล่นทั้ง 2 รุ่นนี้ไปลองได้ที่ Central World

สเปค HTC RE Camera

  • กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/2.3" Sony CMOS
  • เลนส์กว้าง 146 องศา f2.8
  • ถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p @30fps / Slow Motion 4x HD 720p
  • รองรับ microSD card สูงสุด 128GB (แถมในชุดขาย 8GB)
  • แบตเตอรี่ 820 มิลลิแอมป์
  • น้ำหนัก 65.5 กรัม
  • เชื่อมต่อได้ทั้ง Android และ iOS
  • ราคา 6,790 บาท 

 

source : mxphone

[Review] Acer Liquid Z500 มือถือสองซิมสเปกมา หน้าตาดี ราคาเบาที่ 5,990 บาท

0
0

สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน ห่างหายไปสักพักตอนนี้ได้กลับมารีวิวมือถืออีกแล้ว คราวนี้ผมขอแนะนำ Acer Liquid Z500มือถือสเปกเกินราคาจาก Acer ที่ต้องบอกว่าเป็นผู้ท้าชิงที่สมน้ำสมเนื้อกับเจ้าตลาดมือถือราคาถูกตอนนี้อย่าง ASUS Zenfone 5 เลยทีเดียว ซึ่งผมต้องบอกว่ารุ่นนี้นอกจากจะรองรับ 2 ซิมแล้ว ยังมาดีทั้งหน้าตา สเปกของตัวเครื่อง และราคาขายครับ แน่นอนถ้าจะเป็นผู้ท้าชิงของ Zenfone 5 ราคามันก็ต้องสูสีกันหน่อย โดย Acer Liquid Z500 วางจำหน่ายในราคา5,990 บาท มีสีขาวและสีดำโดยจะแยกเป็น2 รุ่นตามเครือข่ายที่รองรับคือ 850/2100 และ 900/2100ตอนซื้อบอกคนขายให้ชัดเจนด้วยนะครับ นอกจากนั้น Acer ยังภูมิใจเสนอว่ารุ่นนี้เป็นมือถือสำหรับคนรักเสียงเพลงอีกด้วย มาลองดูรีวิวเจ้า Z500 กันดีกว่าครับ


Acer Liquid Z500เป็นมือถือที่จะมาสู้ศึกในตลาดราคา 5,000-6,000 บาท ซึ่งทางเว็บ Droidsans เคย จับเปรียบเทียบสเปกกับเจ้าตลาดอย่าง ASUS Zenfone 5มาแล้ว 1 รอบ ตอนนี้ก็ได้เวลามาจับของจริง ใช้งานจริงดูว่าสู้กันได้ขนาดไหน โดย Acer Liquid Z500 เลือกใช้ CPU เป็น MediaTek MT6582 Quad-core 1.30 GHz มาพร้อมหน้าจอ IPS HD ขนาด 5 นิ้ว ภาพชัด สีสันไม่จัดจ้าน ส่วนเรื่องเครือข่ายที่รองรับก็อย่างที่บอกคือ จะแบ่งจำหน่ายเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 3G 850/2100 และรุ่น 3G 900/2100 มี 2 สีคือดำและขาว สีเขียวตามรูปไม่มีวางจำหน่ายครับ โดยทางเว็บได้เครื่องรุ่นสีดำที่รองรับ 3G 900/2100 มาทดสอบนะครับ เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมของมือถือรุ่นนี้กันดีกว่า


อะไรอยู่ในกล่อง?


สำหรับอุปกรณ์ที่ Acer จัดมาให้ในกล่องของ Z500 นั้นต้องก็ตามมาตรฐานทั่วไปครับ ได้แก่

  • ตัวมือถือ Acer Z500
  • สาย USB
  • Adaptor สำหรับชาร์จขนาด 5V1A
  • หูฟัง smalltalk

 

 

สเปกของ Acer Liquid Z500 ...

Acer Z500 นั้นเป็นมือถือราคาถูกที่สเปกเกินราคาไปพอสมควร สามารถปีนขึ้นไปสู้ในระดับ Mid-range หรือตลาดกลางได้สบายๆ ถ้าเทียบกับมือถือเจ้าใหญ่ๆในระดับราคาเดียวกัน รายละเอียดมีดังนี้

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : Acer Liquid Z500 (Z500)
  • สัดส่วน: 145 x 73 x 8.8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 150 กรัม
  • หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล คิดเป็นความหนาแน่นพิกเซลที่ 294 ppi
  • เครือข่ายที่รองรับ:
    • 3G : ตามรุ่นที่วางจำหน่าย 850/2100 หรือ 900/2100
    • 2G : GSM 850/900/1800/1900
  • SIM : 2 SIM แบบ MicroSIM พร้อม dual-standby รอรับสายได้พร้อมกัน
  • CPU: MediaTek MT6582 Quad-core 1.30 GHz
  • GPU : Mali-400
  • RAM : 2 GB
  • หน่วยความจำภายใน : 16 GB เพิ่ม MicroSD ได้ถึง 32GB
  • กล้องหน้า : 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง : 8 ล้านพิกเซล เลนส์ f2.0 พร้อม LED flash และ Autofocus
  • แบตเตอรี่ : 2,000 มิลลิแอมป์ (ถอดไม่ได้)
  • OS : Android 4.4.2 KitKat พร้อม Acer Home
  • NFC : ไม่มี
  • การเชื่อมต่ออื่นๆ:
    • Wi-Fi 802.11 b/g/n
    • Bluetooth 4.0 EDR HS
    • A-GPS, GLONASS
    • USB 2.0 HS
    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

 

รอบตัวเครื่อง Z500 ...

เริ่มกันที่ด้านบนของตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีเพียงปุ่มเพิ่มลดเสียงเพียงอย่างเดียว ด้านซ้ายไม่มีปุ่มอะไรครับ

 

ด้านล่างจะมีช่องเสียบสาย MicroUSB ต่อกับคอมพิวเตอร์และช่องไมค์สนทนา

 

ด้านหน้าของตัวเครื่องมีหน้าจอ IPS LCD ความละเอียด HD ขนาด 5 นิ้ว ด้านบนจะมีลำโพงสำหรับสนทนา, กล้อง Selfie 2 ล้านพิกเซล และ Notification LED ไฟแจ้งเตือนสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนด้านล่างเป็นแถบดำทึบไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น ไม่รู้จะเหลือไว้ทำไมเหมือนกัน ล่างสุดเป็นช่องลำโพงสำหรับเสียงเรียกเข้า หากคนดูเผินๆอาจจะคิดว่ารุ่นนี้มีลำโพงคู่แบบ Stereo ด้านหน้า เพราะช่องลำโพงบนและล่างหน้าตาเหมือนกันเลย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ เพราะ มันเป็นลำโพง Mono ธรรมดานี่แหละดีหน่อยที่หันออกข้างหน้า ทำให้ได้ยินเสียงตือนและเสียง Ringtone ชัดเจนหน่อย

 

ด้านหลังของตัวเครื่องจะออกเรียบๆ มีกล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล โดยมี LED flash วางอยู่ด้านซ้ายของกล้อง ด้านล่างของกล้องจะเป็นรูไมค์ตัดเสียงรบกวน และล่างสุดเป็นปุ่ม AcerRAPIDปุ่มลัดสารพัดประโยชน์ที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ที่จะกล่าวถึงอีกครั้ง

 

 

แกะฝาหลังออกมาจะเห็นช่องเสียบ MicroSIM อยู่ทางด้านขวาทั้ง 2 SIM ถัดมาด้านล่างจะเป็นช่อง MicroSD card ส่วนแบตเตอรี่นั้นถูกล็อคไว้กับตัวเครื่องไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้นะครับ

 

 

 

หน้าจอ IPS HD

Acer Liquid Z500 มาพร้อมกับหน้าจอ TFT IPS ขนาด 5 นิ้ว โดยมีความละเอียดเป็น HD 1280x720p คุณภาพของจอนั้นก็อยู่ในระดับที่ดีในสมาร์ทโฟนราคานี้ สามารถแสดงภาพได้คมชัดและสีสันเป็นธรรมชาติ แต่มุมมองของหน้าจอนั้นไม่กว้างมากสักเท่าไหร่ เวลาเอียงเครื่องมองด้านข้างจะเห็นชัดว่าสีเพี้ยนไปสมควร แต่ข้อดีคือถึงมุมมองจะไม่กว้างมากแต่ก็ไม่ได้แคบมากเหมือนกัน ถ้าไม่ตั้งใจเอียงเครื่องดูก็คงไม่เห็นสักเท่าไหร่ และตัวหนังสือก็ยังอ่านได้ไม่เพี้ยนไปเหมือนกับสีของหน้าจอ นอกจากนั้นกระจกหน้าจอก็ยังเป็น Gorilla Glass 3 ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเลยทีเดียว

 

 

ว่ากันด้วยเรื่อง Software...

Acer Liquid Z500 นั้นมาพร้อมกับ Android 4.4.2 KitKatและ Acer Homeซึ่งเป็น Launcher ที่ทาง Acer ปรับแต่งขึ้นมาเอง การใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างจาก Android Launcher มาตรฐานสักเท่าไหร่ โดยมันจะคล้ายกับ Acer เอา Android Launcher มาแต่งหน้าทาปากให้ดูสวยขึ้น มีการปรับ font, เปลี่ยน icon และ Widget ของ Acer เองที่แถมมาให้ สำหรับตัว Lock screen จะมี effect น้ำในแก้วเอียงซ้ายขวาได้ก็ดูสวยงามดี ส่วน shortcut ของ App ที่อยู่บนหน้า Lock screen นั้นคือชุดเดียวกันกับที่อยู่บนหน้า Home screen ดังนั้นเราสามารถเปลี่ยน shortcut เหล่านี้ได้เลยบน Home screen แล้วมันจะเปลี่ยนไปด้วยบน Lock screen

 

 

การปรับแต่ง Home screen และ Lock screen จะอยู่ในเมนู Personalize ในหน้า Settings โดยเราสามารถเปลี่ยน Wallpaper, เปลี่ยน Widget ในหน้า Lock screen และสามารถเปลี่ยน effect ในการเลื่อนหน้าจอ Home screen ได้หลายแบบอีกด้วย นอกจากนั้นเวลาเลื่อนหน้าจอ 1 ครั้งถ้าเราไม่ปล่อยนิ้วออก หน้าจอก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆด้วยครับ

 

ในส่วนของ Notification shade เวลาเราลากนิ้วจากด้านบนลงมานั้น ก็ยังคงตามรูปแบบมาตรฐานของ Android ไว้แต่จะมีปุ่มเปิดปิดหรือ Toggles มาให้ใช้เพิ่มเติมตามสมัยนิยม ซึ่งเราสามารถเปิดปิด Wifi, Airplane mode หรือ Data ได้จากตรงนี้เลย และถ้าเรากดตรงลูกศรชี้ลงจะเป็นการเปิดหน้า Toggles เต็มรูปแบบซึ่งจะสามารถเปิดปิดความสามารถได้อีกหลายอย่าง เช่น GPS, Wifi Hotspot หรือไฟฉาย เป็นต้น

 

นอกจากนั้น Acer ก็ยังมี App และความสามารถพิเศษมีให้อีกหลายอย่างใส่มาให้ใน Acer Z500 ลองมาดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้างนะครับ

 

AcerRAPID

ปุ่มลัดสารพัดประโยชน์ที่อยู่ด้านหลังของ Acer Z500 นั้น สามารถทำงานได้หลายอย่าง ดังนี้

ตอนปิดหน้าจอ:

  • กด 1 ครั้งเพื่อปลดล็อคหน้าจอไปหน้า Home screen
  • กดค้างเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูปทันที

ตอนกำลังใช้งาน:

· กด 1 ครั้งเพื่อเปิด App ที่ตั้งค่าไว้ โดยสามารถเปลี่ยนได้ในเมนู AcerRAPID ที่อยู่ใน Settings

  • กดค้างเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูปทันที

กล้องถ่ายรูป:

ใช้เป็นปุ่ม shutter สำหรับถ่ายรูปได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

 

Quick Mode


Acer อนุญาตให้เราเปลี่ยนหน้าตาที่ซับซ้อนของ Android Launcher ไปเป็นหน้าจอที่ใช้งานง่ายสำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน โดยทำผ่านทาง Quick Mode ซึ่งก่อนใช้งานจ้องต้องมีการตั้งรหัสผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยน mode เองโดยไม่จำเป็น Quick mode จะแบ่งออกเป็น 4 mode สำหรับการใช้งานที่ต่างรูปแบบกันดังนี้

1. Basic Mode :เป็นรูปแบบสำหรับเด็กเล็กใช้มือถือ โดยจะทำได้เพียงแค่โทรหาเบอร์โทรที่เตรียมไว้เพียง 6 เบอร์เท่านั้น และสามารถส่งข้อความ SMS ได้ นอกเหนือจากนี้ไม่ให้ใช้ทำอย่างอื่น เหมาะกับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเล็กเพิ่งเข้าโรงเรียนมีโทรศัพท์ไว้โทรหายามฉุกเฉิน

2. Senior Mode :เป็นรูปแบบสำหรับผู้สูงอายุ โดยสามารถเตรียมเบอร์ที่โทรประจำไว้ได้ 10 เบอร์, อนุญาตให้ส่งข้อความ SMS ได้, เลือก App ที่ใช้ประจำได้ 1 App, ดูพยากรณ์อากาศ, ดูเวลา, ดูสมุดรายชื่อ และแว่นขยายที่จะเปิดกล้องถ่ายรูปแล้ว Zoom ดูของต่างๆผ่านกล้องได้

3. Keypad Mode :เป็นรูปแบบ Feature phone หรือมือถือสมัยก่อนที่จะมีปุ่มกดเบอร์พร้อมอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังอนุญาตให้เข้าใช้งาน App อื่นๆในเครื่องได้ทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่ชินกับการเปิดมือถือแล้วกดเบอร์เลย แต่ก็อยากใช้ App อยู่

4. Classic Mode :เป็นรูปแบบ Smartphone จอสัมผัสยุคแรกที่ไม่ต้องมีการจัดหน้าจออะไรให้วุ่นวาย โดยจะมีการแบ่งหมวดหมู่ของ App และ Settings ในเครื่องให้เข้าถึงได้ง่ายๆ เช่น Social จะเป็นหมวด App สำหรับเล่นสังคมออนไลน์, Internet เป็นหมวด App สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ต และ Media เป็นหมวดรวม App สำหรับฟังเพลง ดูรูปภาพและวิดีโอ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนที่เข้าใจสมาร์ทโฟน ใช้งานเป็นและต้องการใช้ทำงานจริงๆ ไม่ต้องการให้มีอะไรมาดึงความสนใจแบบนิสัยทั่วไปหลายๆคนที่หยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อค ปัดซ้ายปัดขวา 2-3 ทีแล้วก็วางไว้อย่างเดิม ไม่ได้ทำอะไร แค่อยากดูหน้าจอเฉยๆ

 

Acer BYOCApps

Acer Z500 นั้นมาพร้อมกับระบบ Cloud ส่วนตัวที่จะมี App ให้สามารถเข้าถึงการใช้งาน Acer Cloud ในรูปแบบต่างๆได้ เรียกว่า Acer BYOC Apps หรือ abAppsโดยหัวใจหลักของ Acer Cloud คือให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก จะเข้าถึงจากมือถือ,แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูอัลบั้มรูป, การฟังเพลง หรือการแก้ไขเอกสาร สามารถทำได้ตลอดเวลา โดยใน Acer Portal จะมี abApps อยู่ 5 ตัวด้วยกันดังนี้

  • abPhotos :ใช้จัดการรูปภาพที่อยู่บน Cloud ของเรา ทั้งเพิ่ม,ลบหรือสร้างอัลบั้มรูป online ก็ทำได้
  • abVideo:ใช้จัดการวิดีโอต่างๆ บน Cloud ของเรา
  • abMusic:ใช้จัดการเพลงที่อยู่บน Cloud ของเรา
  • abDoc:ใช้จัดการไฟล์ office ประเภทต่างๆ บน Cloud ไม่ว่าจะเป็น Doc, Presentation หรือ Spreadsheet
  • abFiles:ใช้เข้าถึงไฟล์ต่างๆในคอมพิวเตอร์ของเราจากมือถือหรือแท็บเล็ต

ซึ่งการที่จะใช้งานได้สมบูรณ์เราต้องติดตั้ง abApps ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราด้วย สำหรับข้อมูลรายละเอียดของ abApps และตัวติดตั้งสำหรับ PC นั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.acer.co.th/ac/th/TH/content/byoc-consumerเลยครับ โดย Acer ให้สิทธิ์ทดลองใช้งานฟรี 2 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียน

 

AcerEXTEND

AcerEXTEND คือ App ที่จะช่วยให้สามารถควบคุมสมาร์ทโฟนของเราผ่านทางคอมพิวเตอร์ได้หรือการทำ Screen Mirroring นั่นเอง ดังนั้นเราจึงสามารถมองเห็นและควบคุมมือถือของเราผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องหยิบมือถือขึ้นมา ซึ่งวิธีการนี้จำเป็นต้องมีการติดตั้งโปรแกรมใน PC ของเราด้วย การติดตั้งมีขั้นตอนดังนี้

  1. ให้เราเสียบสาย USB ต่อตัวมือถือเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วเปิด Windows Explorer ขึ้นมา
  2. เข้าไปยังอุปกรณ์ของเรา (ในที่นี้คือ Z500) ผ่านทาง Windows Explorer แล้วจะเห็น file ที่ชื่อว่า AcerEXTENDInstaller.exe ให้ copy มาไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้ว double click ที่ file เพื่อติดตั้ง AcerEXTEND ได้เลย
  3. ติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ไปแตะปุ่ม ON บน AcerEXTEND ในมือถือ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว

อย่างไรก็ตาม AcerEXTEND นั้นใช้แค่ทำ Screen Mirroring และควบคุมได้เท่านั้น โดยส่วนตัวคิดว่ามันยังไม่สุด น่าจะมีปุ่มให้สามารถ Capture Screen หรืออัดวิดีโอหน้าจอของมือถือได้ด้วยจะมีประโยชน์มากกว่านี้

 

Recent Apps และ Floating Apps

Acer Z500 นั้นมาพร้อมกับหน้า Recent Apps แบบของตัวเอง (แต่ก็ดูคุ้นๆอยู่เหมือนกัน) โดยเราสามารถสลับ App ใช้งานหรือปิด App ได้โดยการลากออกไปจากหน้าจอ นอกจากนั้นด้านล่างของหน้า Recent Apps จะมีรายการ Floating Apps ให้เราเรียกใช้งานด้วย

Floating Apps แปลตรงตัวก็คือ App ที่ลอยอยู่ ซึ่งมันก็คือ Multi-window ในแบบของ Acer นั่นเอง โดยเราสามารถเปิด App เป็นหน้าต่างเล็กๆลอยขึ้นมาบนหน้าจอได้ Floating Apps จะมีให้ใช้หลายอย่างทั้ง การจดโน็ต, กล้อง, แผนที่, เครื่องคิดเลข และอื่นๆ ซึ่งเราสามารถเปิดหน้าต่าง Floating Apps ได้ไม่จำกัด แต่จริงๆเปิดมาแค่ 2 หน้าต่างก็เต็มหน้าจอแล้วล่ะครับ

 

การฟังเพลงและระบบเสียง DTS

Acer Liquid Z500 เป็นมือถือที่ Acer ชูประเด็นเรื่องการฟังเพลงเป็นหลัก โดยโปรยคำโฆษณาว่า

โปรแกรมเล่นเพลงในโทรศัพท์จะเล่นเสียงคุณภาพคมชัดระดับ CD ไปยังลำโพงด้านหน้าอันทรงพลังที่จะขับเสียงกังวานใสอย่างน่าประทับใจ ยังมีระบบเสียงแบบ DTS Studio Sound™ และระบบเพิ่มคุณภาพเสียงเพื่อความประทับใจในประสบการณ์การฟังที่เหนือกว่า

นอกจากนั้นยังมีการยืนยันสเปกก่อนหน้านี้ว่า Acer Liquid Z500 นั้นมาพร้อมกับลำโพงสเตริโอคู่ด้านหน้า แต่จากเครื่องที่ได้มารีวิวนั้นพบว่าเป็นลำโพงโมโนธรรมดาอยู่ด้านล่างของหน้าจอ ส่วนบนของหน้าจอนั้นทำช่องลำโพงหลอกไว้เฉยๆ คล้ายกับ iPhone ที่มีลำโพง 2 ช่องแต่มีเสียงออกแค่ช่องเดียว ซึ่งจากการทดสอบฟังเพลงพบว่า ลำโพงนั้นคุณภาพดีกว่ามือถือทั่วไปในราคาระดับเดียวกัน แต่ความดังนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นระบบเสียงที่ดีได้ ต้องฟังภายในห้องเงียบถึงจะได้ยินเสียงชัดเจน แต่ระบบเสียง DTS นั้นเป็นพระเอกขี่ม้าขาวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเวลาฟังเพลงผ่านทางหูฟังนั้น DTS ช่วยให้เสียงดีเพลงเพราะขึ้นอีกระดับเลย

 

 

กล้องหลังและกล้องหน้า...

 

กล้องหลังของ Acer Z500 ถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซลสัดส่วนแบบ 4:3 และสามารถถ่ายแบบมุมกว้าง (wide) ได้ที่ความละเอียด 6 ล้านพิกเซลสัดส่วนเป็น 16:9 ซึ่งเป็นค่า default นะครับ กล้องตัวนี้ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F2.0 และมีความเร็วในการถ่ายรูปถึง 1.5 วินาที โหมดการถ่ายรูปนั้นมีให้ใช้ครบครัน ทั้ง HDR, Panorama, Beautification, Best Shot, Smile Shutter และ Bright Magic ซึ่งเป็นโหมดพิเศษสำหรับการถ่ายรูปในที่แสงน้อยโดยทำให้ภาพสว่างขึ้นมาได้ คล้ายๆกับ Pixel Master ของ ASUS Zenfone เลย ดูได้จากรูปด้านล่างเลยครับ

 

ส่วนของ Effects มีให้ปรับหลายรูปแบบทั้ง Mono, Sepia, Negative และ Aqua สำหรับ Camera Settings ก็ปรับได้หลายอย่างทั้ง ความละเอียด, ISO, ถ่ายรัว (Continuous Shot), แตะแล้วถ่าย (Touch to Capture) และ Favorite Shot ที่เป็นปุ่มพิเศษอยู่ข้างๆปุ่มถ่ายรูป โดยเราสามารถเลือกโหมดถ่ายรูปที่เราชอบใช้บ่อยๆให้กับปุ่มนี้ได้เลย

สำหรับคุณภาพของภาพถ่ายที่ออกมานั้น ถ้าเป็นในสภาพแสงพอเพียง เช่น ตอนกลางวัน เราจะได้ภาพสวยแต่ไม่ค่อยคมสักเท่าไหร่ บางภาพจะดูฟุ้งๆโดยไม่มีเหตุผล แต่ภาพตอนกลางคืนหรือตอนแสงน้อยนั้นไม่ไหวจะเคลียร์ บริเวณที่มืดจะเห็นภาพเป็นปื้นสีน้ำเงินชัดเจน และ Noise ก็เยอะพอสมควร ส่วนดีคือโหมด Bright Magic เข้ามาช่วยชีวิตการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและตอนกลางคืนได้ดีพอสมควร ลองมาดูภาพตัวอย่างกันครับ อัลบั้มเต็มอยู่ด้านล่าง

ภาพถ่ายในที่แสงเพียงพอ


ภาพถ่ายในที่แสงน้อย

 

 

อัลบั้มเต็ม

 

สำหรับการถ่ายวิดีโอสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1920 x 1080Pและ framerate ที่ 30 fpsภาพวิดีโอที่ได้ถือว่าชัดเจนดีไม่กระตุก แต่ภาพไม่คมลักษณะเดียวกับการถ่ายภาพนิ่งน่าจะเป็นเพราะตัวเซ็นเซอร์ ตัวอย่างวิดีโออยู่ด้านล่างครับ การถ่ายวิดีโอสามารถ Pause กลางทางแล้วถ่ายต่อได้ไม่จำเป็นต้องกด stop เพื่อบันทึกวิดีโอแล้วเริ่มถ่ายเป็น clip ใหม่

 

กล้องหน้าเป็นแบบ Fixed focus ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับยุค Selfie แบบในปัจจุบันถือว่าน้อย แต่คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องหน้าถือว่าดี แถมมีโหมด Beautificationทำหน้าเนียนตอบและ Big eye ให้เสร็จสรรพจนเวลาเห็นภาพแล้ว ผมนี่อึ้งไปเลยครับ

 

 

ประสิทธิภาพและความอึด

ผลจากการวัดประสิทธิภาพ Acer Z500 ด้วยโปรแกรม benchmark ยอดนิยมอย่าง Antutu และ 3DMark นั้นต้องบอกว่าได้คะแนนตามมาตรฐาน ถือว่าไม่ขี้เหร่สำหรับมือถือระดับนี้ แต่มันก็เป็นแค่ตัวเลข เพราะจากการใช้งานจริงพบว่า การใช้งานโดยทั่วไปลื่นไหลดี ไม่มีอาการสะดุดให้เห็นสักเท่าไหร่ ทั้งการเปิด App, สลับ App, ดูหนังและฟังเพลง เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้าง “เนียน” สำหรับมือถือราคาเท่านี้ โดยเฉพาะการดู Youtube แล้วมีลำโพงอยู่ข้างหน้านั้นได้อารมณ์พอสมควร ส่วนจะเป็นความละเอียด 720p หรือ 1080p ก็เล่นได้ลื่นๆไม่มีปัญหา ส่วนการเล่นเกมส์นั้นก็เล่นได้สบายๆไม่มีปัญหาอะไร เท่าที่ลองเกมส์ 3D อย่าง Asphalt 8 : Airborne ก็สามารถเล่นได้มีกระตุกบ้างเป็นบางครั้ง สำหรับ Cookie Run ก็เล่นได้สบาย

 

  

ในส่วนของแบตเตอรี่ 2000 mAh นั้นความอึดถือว่า เพียงพอ สามารถใช้งาน 1 วันได้พอดี โดยผมถอดสายชาร์จตอนเช้าใช้งานเรื่อยๆตามชีวิตประจำวันคือ Social, ถ่ายรูป และ ฟังเพลง จนกลับถึงบ้านเวลาผ่านไป 15 ชั่วโมงนิดๆ พบว่ามีแบตเตอรี่เหลืออยู่ 16% ชาร์จต่อที่บ้านได้ทันที ส่วนพื้นที่หน่วยความจำ 16GB นั้นก็มีเหลือให้ใช้งานประมาณ 8.94GB ถือว่าน้อยพอสมควร เพราะมีการแบ่ง Partition ให้ System ไปถึง 3.1GB

 

 

สรุปข้อดีและข้อเสีย...

ข้อดี

  • ราคาต่อสเปกคุ้มค่า
  • งานออกแบบดูดี
  • ประสิทธิภาพดี
  • แบตเตอรี่อึดพอดี
  • ถ่ายรูปได้รวดเร็ว
  • ระบบเสียง DTS

ข้อเสีย

  • Software ยังไม่สเถียรเท่าที่ควร
  • กล้องถ่ายภาพแสงน้อยได้ไม่ดีเลย
  • GPS จับสัญญาณไม่ดีและช้า
  • ลำโพงน่าจะเป็นสเตริโอ

 

ส่งท้ายรีวิว...

Acer Liquid Z500 เป็นมือถือที่จัดได้ว่า คุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้งานตัวหนึ่ง ด้วยราคาเพียง 5,990 บาท แต่ได้สเปกขึ้นไปเทียบมือถือระดับกลางได้เลย  นอกจากนั้นประสิทธิภาพของตัวเครื่องก็ทำได้ดี การใช้งานลื่นไหลในทุกส่วนน่าประทับใจทั้ง Social, เกมส์ และการดูหนังฟังเพลง โดยเฉพาะลำโพงที่อยู่ด้านหน้าถือว่าเป็นจุดแตกต่างจากคู่แข่งที่เดียว สำหรับคู่แข่งของ Acer Liquid Z500 ก็แน่นอนว่าเป็น ASUS Zenfone 5 แน่นอน ด้วยราคาและสเปกที่ใกล้เคียงกัน แต่ Zenfone 5 ดูดีกว่านิดๆ ทั้งด้าน Hardware และ Software นอกจาก Zenfone แล้วก็มี Huawei Honor 3C อีก 1 รุ่นที่ราคาใกล้เคียงและสเปกก็ดูดีเช่นกัน นาทีนี้คนที่สนใจออกไปหาซื้อได้แล้ว วางจำหน่ายสีขาวกับสีดำนะครับ ย้ำอีกทีว่าก่อนซื้อให้ตรวจสอบกับคนขายด้วยว่าเป็นรุ่นที่รองรับเครือข่ายไหน 900/2100 หรือ 850/2100 ไม่งั้นมานั่งเสียใจทีหลังจะหาว่าไม่เตือน

Lifelog แอพพลิเคชั่นที่เสมือนมีคนคอยดูแล 24 ชั่วโมง

0
0

ล่าสุด Sonymobile ได้ออก App ใหม่ที่ชื่อ Lifeblog ที่ถูกสร้างมาเพื่อบักทึกเรื่องราวเหตุการณ์ จดจำ หรือกำหนดเป้าหมายต่างๆให้กับผู้ใช้ ทำให้เปรียบเสมือนมีผู้ดูแลส่วนตัวอยู่ตลอดเวลา

Lifelog จะบันทึกกิจกรรมของผู้ใช้งานที่ทำให้แต่ละวันทั้งหมด ว่าทำอะไรไปบ้างใช้เวลาเท่าไหร่ หรือแม้แต่กำหนดเป้าหมายใจการออกกำลังกายและดูว่าเผาพลาญแคลอรี่ไปมากน้อยเพียงใดก็ได้นะ

นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกเรื่องราวความประทับใจที่เกิดขึ้นไว้ได้อย่างละเอียดทั้งเวลา สถานที่ รวมถึงรูปภาพความทรงจำ และมีความสุขอีกครั้งเมื่อได้ย้อนดู

นอกจากนี้ Lifeblog ถูกออกแบบมาให้ใช้กับงานสมาร์ทแวร์อื่นได้เช่น SmartBand Talk SWR30, SmartWatch 3 และ SmartBand SWR10 ทำให้การพกพาไปมาสะดวกมาขึ้น สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนแอนดรอย์ทั่วไป

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ siamphoneสามารถโหลดใน Google play store ได้แล้ววันนี้!

ที่มา deemagz

ข่าวลือ HTC One M9 จะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และจะมีรุ่น M9 Prime ตามมาด้วย

0
0

ตอนนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้วครับเพื่อนสมาชิก ได้เวลาข่าวลือระลอกใหม่ของมือถือเรือธงในปีหน้าหลุดมาให้เราเสพและเตรียมตังค์สำหรับต้นปีหน้ากันแล้ว โดยตอนนี้มีข้อมูลของ HTC One M9ว่าที่เรือธงตัวต่อไปของ HTC หลุดออกมาจากแหล่งข่าวในประเทศจีน โดยลือกันว่า HTC นั้นเตรียมจัดหนักกับ HTC One M9 ที่จะใช้หน้าจอ 2K และกล้อง 16 ล้านพิกเซลพร้อม OIS นอกจากนั้นเรายังจะได้เห็น HTC One M9 Primeอีกหนุ่งรุ้นตามออกมาเช่นกัน

ข้อมูลสเปกแบบละเอียดที่หลุดออกมานั้นระบุว่า HTC One M9 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซลหรือ 2K, RAM 3GB, หน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 805 และมีความจุแบตเตอรี่ 3500 mAh นอกจากนั้นกล้องหลังของ HTC One M9 จะมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ OIS นั่นหมายความว่า HTC อาจจะละทิ้งกล้อง Ultrapixel ไปแล้ว เพราะหลายรุ่นที่เปิดตัวช่วงปลายปี เช่น HTC One E8, HTC Butterfly 2, HTC Desire Eye หรือ HTC M8 Eye ก็ไม่ได้ใช้ Ultrapixel แล้วเหมือนกัน

ในเรื่องระบบเสียงก็มีรายงานว่า HTC กำลังหา partner มาร่วมอยู่หลังจาก Beats โดน Apple สอยไปเรียบร้อย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น Bose ที่จะมาร่วมงานกับ HTC และ HTC อาจจะใช้วัสดุเป็น Aluminum Silicon-carbide ในการทำตัวเครื่องของ M9 ด้วย

ดูจากสเปกถ้าเป็นจริงทั้งหมดที่กล่าวมาคงต้องบอกว่า HTC จัดหนักเอาของที่ดีที่สุดในช่วงต้นปี 2015 มาใส่ใน HTC One M9 เลยทีเดียว ถ้าอย่างนั้นรุ่น M9 Prime จะมีอะไรเหลือให้เล่นอีก เดากันว่า M9 Prime น่าจะเป็นรุ่นจอใหญ่ของ M9 ที่จะมาแทนตระกูล One Max ในปัจจุบัน คงจะคล้ายๆกับที่ Apple เปิดตัว iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus พร้อมกันๆกันนั่นแหละครับ มารอดูกันอีกทีเดือนมีนาคมปีหน้า ในงาน MWC 2015 ครับผม

ที่มา:PhoneArena

Nexus 9 พบปัญหาในด้านการผลิต แสงลอดใต้จอ ฝาหลังยวบ ปุ่มกดขยับ (ลือว่า HTC กำลังแก้ไข)

0
0

หลังจาก Nexus 9วางขายได้ไม่นานก็พบว่ามีผู้ใช้หลายคนเจอปัญหาในเรื่องของการผลิตหลายอย่าง บางคนเจออาการแสงลอด (Backlight bleed) ฝาหลังยุบยับ กดได้ยุบๆ เด้งๆ (Squishy backside) และปุ่มเปิดเครื่องกับปุ่มปรับเสียงขยับได้ (Key travel) ซึ่งบางคนก็เจอแค่อาการเดียว แต่บางคนเจอแจ็คพ็อต 3 อาการในเครื่องเดียว  Stare

แต่ดูเหมือนว่าล่าสุด HTCจะรับทราบปัญหาและเริ่มมีการแก้ไขแล้ว เพราะเครื่อง Nexus 9ล็อตล่าสุดที่ส่งออกมาให้กับลูกค้านั้นมีการเปลี่ยนปุ่มเปิดเครื่องและปุ่มปรับเสียงใหม่ โดยรอบนี้นูนขึ้นกว่าเดิม ทำให้กดได้ง่ายขึ้น และไม่มีการขยับเขยื้อนของปุ่มกดแล้ว รวมถึงแสงลอดไต้จอก็ลดลง และฝาหลังกดยังไงก็ไม่บุ๋มลงไป

แต่ทั้งนั้ทั้งนั้นหลายๆ คนก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่า HTCได้ทำการแก้ไขปัญหาการผลิตของ Nexus 9แล้วจริงหรือไม่ หรือแค่ผู้ใช้ที่มารายงานอาจจะโชคดี ได้รับเครื่องทีมีปัญหาน้อยก็เป็นได้ ณ จุดนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทาง HTC ออกมา

เพราะฉะนั้นในตอนนี้ใครที่จะสั้งหรือหาซื้อ Nexus 9 ก็ให้ลองเช็ค 3 อาการนี้ให้ดีนะครับ

  1. แสงลอดใต้จอ
  2. ฝาหลังกดลงไปได้ คือกดแล้วมันจะเด้งกลับขึ้นมา
  3. ปุ่มเปิดเครื่องและปุ่มปรับเสียงขยับได้ นุ่มและกดยาก

 

source : androidauthority

Viewing all 6898 articles
Browse latest View live




Latest Images